อาสาสอนเด็กเล็กบ้านห้วยส้าน ร่วมงานประเพณีที่ขุนยวม

โรงเรียนบ้านห้วยส้าน อำเภอุนยวม เป็นโรงเรียนเล็กๆห่างไกล มีเด็กหลากหลายชนเผ่าเข้ามาศึกษา กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมบริจาคของ สานสัมพันธ์ และ สืบสานประเพณีท้องถิ่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก ประเพณีหมั่งกะปะ

โดยเด็กที่เราไปทำกิจกรรมเป็นเด็กเล็ก ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ แต่บางครอบครัวยังขาดแคลนมากมาย กิจกรรมนี้เราจะแบ่งกิจกรรม และ อาสาเป็นกลุ่ม และ กระจยกันให้ความรู้แก่น้องๆ ซึ่งเราจะประชุมผ่าน line กันอีกที
และ ทำอาหารให้น้องๆทานกัน ร่วมสนุก และ ทำความดีครับ

ประเพณีเขาวงกต (หมั่งกะป่า)

สถานที่ วัดในหมู่บ้านที่สืบเชื้อสายมาจากไทยใหญ่เช่น วัดม่วยต่อ วัดเมืองปอน วัดต่อแพ วัดประตูเมือง อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ประวัติความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับงาน คำว่า หมั่งกะป่า แปลว่า เขาวงกต ตามตำนานที่เล่าขานสืบมาของชาวไทยใหญ่กล่าวว่า เมื่อครั้งพระโคตมพุทธเจ้ากำเนิดชาติเป็นพระเวสสันดร พระราชโอรสของพระเจ้าสัญชัย ผู้ครองนครเชตุดร มีช้างเผือกมงคล 1 เชือก ในสมัยนั้นนครกลิงคราชประสบอาเพศ ฟ้าแล้งฝนไม่ตกตามฤดูกาล
พลเมืองอดยาก ยากไร้ เจ้าผู้ครองนครกลิงคราชโปรดให้พราหมณ์ไปขอช้างมงคลจากเมืองเชตุดร โดยมีพระประสงค์เพื่อให้ฝนตกตามฤดูกาล เมื่อมีพราหมณ์ไปทูลขอพระราชทานช้างมงคลเชือกนั้น พระเวสสันดรได้บำเพ็ญทานบารมี บริจาคช้างมงคลให้พราหมณ์ไป บรรดาเสนาอำมาตย์พร้อมชาวเมืองเชตุดรเข้าเฝ้าพระเจ้าสัญชัยกราบทูลให้
ขับไล่พระเวสสันดรออกจากนครเชตุดร พระเวสสันดร พร้อมพระนางมัทรี เจ้าชายชาลี พระธิดากัณหาผู้เป็นพระมเหสี พระราชโอรสและพระราชธิดา เสด็จไปบำเพ็ญเพียรบารมีในป่า ระหว่างทางต้องผ่านเขาวงกต ซึ่งเป็นระยะทางไกลทุรกันดารมีหนทางคดเคี้ยวไปมา และอยู่ห่างจากพระนครมากจนชาวเมืองไปไม่ถึงท้าวสักกะเทวราชได้เนรมิตปราสาทขึ้น 2 หลัง สระโบกขรณี 1 สระ มีดอกบัวหลากสีออกดอกบานสะพรั่ง พระเวสสันดรประทับอยู่หลังหนึ่ง อีกหลังหนึ่งให้เป็นที่ประทับของพระนางมัทรี เจ้าชายชาลี และพระธิดากัณหา
ประเพณีเขาวงกต จึงเลียนแบบเขาวงกตซึ่งพระเวสสันดรไปบำเพ็ญบารมีในสมัยนั้นซึ่งมีปราสาทอยู่ในเขาวงกต แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงจากปราสาท 2 หลังมาเป็นปราสาทพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เป็นการสร้างจำลองปราสาทของพระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นมาแล้ว 4 พระองค์

ถ้าเขาซ้ายก็เดินทางออกขวา และถ้าเข้าทางขวาก็เดินทางออกซ้าย
ความเชื่อของชาวไทยใหญ่ในอดีตกาลเชื่อว่าถ้าคนไหนหาทางออกเขาวงกตไม่เจอก็แสดงว่าไม่มีบุญ และถ้าคนไหนหาทางออกเขาวงกตเจอก็แสดงว่ามีบุญ
ประโยชน์ที่ได้รับ ช่วยในการบูรณะซ่อมแซมวัด เนื่องจากวัดจะได้รับปัจจัยจากการบูชาธาตุทั้งสี่ ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้รู้เรื่องราวพุทธประวัติ (พระเวชสันดรชาดก) ศาสนิกชนได้ถวายธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยเชื่อว่าเป็นศิริมงคลต่อชีวิต เป็นการสืบสาน รักษาประเพณีเขาวงกต (ปอยหวั่งกะป่า)ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป และเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ

ตารางกิจกรรม

22 พย
19.00 ออกเดินทางจาก ปตท สนามเป้า
23 พย
12.00 ถึงอำเภอขุนยวม ดูทุ่งบัวตอง
15.00 ถึงพิพิธภัณประวัติศาสตร์สงครามโลก
17.00 เริ่มงานประเพณี เขาวงกต ที่วัดเมืองปอน ลอยกะทง
21.00 เขาที่พักโรงแรม

24 พย
8.00 ทานอาหารที่เราเตรียมไว้ ออกเดิทางไปโรงเรียนบ้านห้วยส้าน
9.00 ถึงโรงเรียน แนะนำตัวกับเด็กๆ และ แบ่งกลุ่มกิจกรรม
เป็นแต่ละกลุ่มสร้างฐานขึ้นมา และ ให้เด็กๆจะเข้าประจำฐานต่างๆ เวียนไปจนครบ
12.00 เสร็จกิจกรรม ทานอาหารเที่ยงเลี้ยงอาหารเด็ก และ อาสา
13.00 บอกลาคุณครู และ เด็กๆ เดินทางกลบกรุงเทพ

25 พย
2.00 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

*** กิจกรรมเปลี่ยนแปลงได้ตามคามเหมาะสม ***