ประเพณีโล้ชิงช้าจัดขึ้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่พืชผลที่กำลังงอกงามในไร่ จัดวนไปแต่ละหมู่บ้านของชาวอาข่า แต่ละชุมชนจัด 4 วัน สองวันแรกของพิธีโล้ชิงช้า ถือเป็นวันเตรียมตัวของชาวบ้านที่ต้องตำข้าวไว้ให้พอกิน เย็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตลอดจนจัดหาสิ่งที่จำเป็นและทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะในสองวันหลังของเทศกาลมีข้อห้ามไม่ให้ตำข้าว ห้ามเย็บเสื้อผ้า และออกไปนอกหมู่บ้าน แม้แต่การใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งของก็ไม่ได้ แต่ไม่ห้ามการรับเงิน
อาข่าถือว่าพิธีโล้ชิงช้าเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ จึงถือเป็นโอกาสอันสำคัญของชาวบ้านที่จะได้มาร่วมชุมนุมกันเพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เด็กจะโล้ชิงช้าและวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนหนุ่มสาวก็จะไปพรอดรักเกี้ยวพาราสีกันที่ลานสาวกอดในยามค่ำคืน ในการเล่นชิงช้านั้นต้องคอยระมัดระวังมิให้สายขาด หากผู้ใดทำสายชิงช้าขาดจะถูกปรับให้เสียหมู 1 ตัว เพื่อนำไปเซ่น ขอขมาต่อผีประจำชิงช้าและสายเชือก ในเทศกาลโล้ชิงช้านี้ บางคนกล่าวว่ามีข้อกำหนดบังคับให้ทุกคนต้องเล่นโล้ชิงช้าเพื่อให้ทุกคนได้ปลอดภัยจากผีร้ายด้วย
วันแรกของพิธีจะเป็นพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ผู้หญิงจะไปตักน้ำบริสุทธิ์ที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน นำน้ำศักด์สิทธิ์แช่ข้าวสารเหนียวไว้ตำเป็นอาหารเซ่นไหว้บูชา ที่เรียกว่า “ข้าวปุก” (จะใช้ข้าวเหนียวหรือข้าวดอยที่ผ่านการนึ่งมาตำในครกใหญ่ผสมกับงาดำและเกลือ ปั้นเป็นก้อนกลมและบีบให้แบนแล้วนำไปห่อใบตอง)
วันที่สองเป็นวันสร้างชิงช้าใหญ่ของหมู่บ้าน ฝ่ายชายจะรวมตัวกันออกไปตัดไม้ทารกมาทำเสาชิงช้า แต่ละบ้านจะทำชิงช้าเล็กๆ ด้วยไม้ไผ่ ให้แก่ลูกหลาน ที่หน้าบ้านของตนเอง หลังจากทำชิงช้าเสร็จในตอนเย็น ช่วงกลางคืนจะมีการเต้นรำฉลองชิงช้า ด้วยการเต้นรำกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่หรือที่ชาวอาข่าเรียกว่า “ตุ๊บองฉ่อง” อย่างสนุกสนานจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ จากนั้นนักเต้นจะได้รับเชิญจากเจ้าบ้าน เพื่อเลี้ยงอาหารเครื่องดื่มกันอย่างอิ่มหนำสำราญ
จากนั้นมีการโล้ชิงช้าใหญ่กันอย่างสนุกสนาน พวกหนุ่มสาวก็จะใช้ลานสาวกอดมานั่งพูดคุยกันและเปลี่ยนกันดึงชิงช้า โดยเฉพาะหนุ่มๆ ต้องแสดงความสามารถในการโหนชิงช้าให้สูง เพื่อให้เป็นที่สนใจของสาวๆ พร้อมร้องเพลงเกี้ยวพาราสี เป็นภาษาประจำเผ่า ส่วนเด็กๆ จะมีชิงช้าของพวกเขาที่หน้าบ้านไว้เล่นเช่นกัน พอตกกลางคืนจะมีการเต้นรำกระบอกไม้ไผ่ตลอดทั้งคืน
วันที่สี่เป็นวันทำพิธีปิดเทศกาลของแต่ละชุมชน ผู้ที่ยังไม่ได้โล้ชิงช้า จะมาโล้ชิงช้าเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว ก่อนที่หมอผีประจำหมู่บ้านจะผูกสายชิงช้าไว้กับเสาชิงช้า และต้องผูกก่อนตะวันจะตกดิน ส่วนชิงช้าจะปล่อยทิ้งไว้จนกว่าปีใหม่จะเริ่มขึ้นอีกในปีต่อไป
เมื่อเทศกาลโล้ชิงช้าสิ้นสุด หัวหน้าพิธีกรรมแห่งหมู่บ้านจะเป็นผู้เก็บสายเชือกของชิงช้าใหญ่มัดเก็บไว้ที่เดิม ส่วนชิงช้าเล็กๆ ที่แต่ละบ้านสร้างขึ้นเล่นกันก็จะถูกรื้อถอนทิ้งไป และหลังจากพิธีโล้ชิงช้าผ่านพ้นไปแล้ว ก็มีข้อห้ามมิให้ผู้ใดมาเล่นชิงช้านั้นอีกจนกว่าเทศกาลโล้ชิงช้าในปีใหม่จะเวียนมาถึงอีกวาระหนึ่ง
ชิงช้าของอาข่า มีอยู่ 3 แบบ คือแบบกระโจมสี่เสา แบบระหัดวิดน้ำ และแบบสำหรับเด็ก
แบบกระโจมสี่เสา ทำด้วยไม้สี่ต้นริดกิ่งให้หมดเหลือไว้แต่ยอด เมื่อปักเสาทั้งสี่ลงในดินแล้วก็รวบยอดเข้าหากันมัดผูกติดกัน และมีเชือกทำด้วยเถาวัลย์ห้อยลงมาตรงกลางที่ปลายเชือกทำเป็นห่วง
แบบระหัดวิดน้ำ ทำด้วยเสา 2 ต้น ปักลงในดิน ด้านบนเป็นง่ามบากสำหรับรองรับแกนกลาง และมีแขนยื่นออกไป 4 ด้าน ปลายแขนตรงข้ามแต่ละคู่นั้นยึดปลายด้วยไม้ไผ่ มีลักษณะคล้ายระหัดวิดน้ำ มีเชือกผูกห้อยลงมาทั้ง 4 แขน ชิงช้าแบบนี้โล้ครั้งละ 4 คน
แบบสำหรับเด็ก เหมือนแบบกระโจมสี่เสา ผิดกันตรงขนาดเล็กกว่าและมีจำนวนมาก เชือกที่ห้อยตรงกลางสำหรับโล้นั้น ทำด้วยเชือก 2 เส้น ตรงปลายเชือกที่เด็กจะขึ้นไปนั่งโล้นั้นใช้ไม้ไผ่วางทับเชือก
ภาระกิจอาสา
1.เก็บขยะบริเวณทีจัดงาน
2.ช่วยเหลืองานต่างๆ
3.เรียนรู้ประวัติงานประเพณี
กำหนดการ
วันศุกร์ที7ก.ย2561นัดพบกันที่ ปั๊มน้ำมันเชลล์ใต้สถานนี BTS อารีย์
19.00น.ลงทะเบียนรายชื่อ
19.30น.ออกเดินทางสู่ดอยแม่สลอง
06.00น.ถึงดอยแม่สลอง
08.00.แบ่งทำภาระกิจลงแรง
12.00น.รับประทานอาหารเที้ยง
13.00น.ทำภารกิจ
17.00น.สรุปงาน
18.00ชมการแสดงต่าง
22.00สรุปงานพูดคุยแลกเปลี่ยนการเรียนรู้
พักผ่อนตามอัธยาศัย
อาทิตย์ที่9
06.00น.ตื่นนอนทำธุระส่วนตัว
07.00น.รับประทานอาหารเช้า
08.00น.ลงแรงเก็บขยะ
10.00น.เดินทางกลับ แวะตามสถานที่สำคัญต่างๆ
21.00นถึง กทม โดยประมาณ
รับจำนวน20ท่าน
ค่าสมัครกิจกรรมท่านละ1390บาท
1ค่ารถตู้ ไปกลับ
หมายเหตุ อาหารอาสารับผิดชอบตัวเองทุกมือ มีอาหารพื้นบ้านขายภายในงาน
กางเต๊นนอน บริเวณงาน ทางผมจะเตรียมเต๊น ถุงนอน หมอนไปให้ ถ้าท่านใดต้องการนำถุงนอนส่วนตัวไปนำไปได้เลยครับ
วิธีการสมัคร
1.โอนเงินผ่านบัญชี นาย กฤษณ์วรา รุ่งโรจน์ เลขที่บัญชี 270-0-19505-1 กรุงไทย
2.สมัครผ่านข้อความเพจ กฤษณ์อาสา
3ส่งสลิปมาที่ข้อความ
4.แจ้งชื่อ นามสกุล
สิ่งที่ต้องเตรียมไป
1หมวกกันแดด
2.เสื้อกันฝน
3.ยารักษาโรค
ค่าใช้จ่าย : 1390บาท