อาสาพัฒนาเกาะลิบง ล่องเรือตามหาพะยูน

พวกเราชาว one fine day

one fine day คือใคร ?

เราคือกลุ่มคนผู้ที่มีใจรักในงานอาสา ท่องเที่ยว และการผจญภัย มารวมตัวกัน ทำสิ่งที่ดี เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางบวกแก่ส่วนรวม กระตุ้นให้เกิดการทำความดีที่ยั่งยืน และผูกพันธ์กันแบบพี่น้อง

เกาะลิบง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอกันตัง มีเนื้อที่ประมาณ 28,295 ไร่ 8 หมู่บ้าน มีคุณค่าความสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านประวัติศาสตร์ รวมถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชน เกาะลิบงมีความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลิบงเป็นเพียงเมืองท่าของหัวเมืองมลายูที่ขึ้นกับไทย จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 1 ดาโต๊ะ ปังกาหวา ชาวลิบง ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเมืองตรัง ทำให้การว่าราชการต่างๆ ถูกย้ายไปดำเนินบนเกาะ เกาะลิบงจึงเป็นที่ตั้งเมืองตรังในอดีต

ในด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะสภาพโดยทั่วไปของเกาะเป็นที่ราบริมชายฝั่งสลับกับเขากลางเกาะ ตลอดแนวชายฝั่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ป่าชายหาดมีแนวหญ้าทะเลที่มีความหนาแน่น และอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหลางอาหาร และที่อยู่อาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดของไทย ทั้งยังมีแนวปะการังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ ก่อให้เกิดความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศอันสมบูรณ์ทำให้พื้นที่บางส่วนของเกาะอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และมีสถานภาพเป็นแรมซาไซท์ พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ และสมบูรณ์ในระดับนานาชาติ หากพิจารณาทางด้านวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชุมชน ถือได้ว่าเป็นชุมชนมุสลิมที่รักสงบ ยังคงวิถีชีวิตชาวประมงและชาวสวนยางที่เรียบง่ายซึ่งอิงอยู่กับสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ

ดุหยง (Duyong) คือ พะยูน นั่นเอง มาจากภาษามลายู แปลว่า “หญิงสาว หรือผู้หญิงแห่งท้องทะเล” พะยูนเป็นสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนม รูปร่างของพะยูนเป็นทรงกรวยคล้ายโลมา บ้างก็ว่าคล้ายวัวมากที่สุด เพราะมันกินหญ้าทะเลเป็นอาหาร รูปร่างหน้าตาของพะยูนนั้น เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะส่วนหัวมีลักษณะคล้ายวัว คนส่วนใหญ่จึงเรียกมันว่า วัวทะเล แต่ส่วนลำตัวนั้น กลับมีความคล้ายคลึงกับปลา มีตาและหูเล็กๆ อย่างละคู่ ไม่มีใบหู มีครีบด้านหน้าหนึ่งคู่คล้ายแมวนํ้า มีติ่งนมเล็กอยู่ใต้ลำตัวตรงแนวใต้ครีบทั้งสองข้าง ตรงส่วนหางนั้นมีหางเป็นแฉกคล้ายปลาวาฬ มันว่ายนํ้าด้วยความเร็วที่ 1.8-2.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่ช้ามากหากเปรียบเทียบกับสัตว์ทะเลประเภทอื่นๆ ปัจจุบัน บนเกาะลิบง มีประชากรพะยูนอยู่ ประมาณ 120 ตัว

รายละเอียดกิจกรรม
วันที่ 6 เมษา
20.00 ลงทะเบียนที่ ปตท สนามเป้า
20.30 ออกเดินทางไปตรัง
วันที่ 7 เมษายน
10:00 เดินทางถึงหาดเจ้าไหม และ เที่ยวชมทะเล และ ทานข้าวมื้อนี้ดูแลตัวเอง
13.30 เดินทางไปยังเกาะลิบง
14.00. เดินทางถึงเกาะลิบง
14.30 แวะชมสุสานพญาลิบง
15.00 เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ท่านสามารถเช่ามอไซไปรอบเกาะ ดูบ่อน้ำจืดกลางทะเล
17.30 ทานข้าวเย็น มื้อนี้ดูแลตัวเอง
20.00 เข้านอน

วันที่ 8 เมษายน
5.30 ตื่นนอน เตรียมตัวออกเรือไปดูพะยูน
6.00 เรือออก ชมพะยูน โดยเราจะมีอาหารเช้าที่ทีมงานเตรียมไว้ไปทานที่เขตรักห้ามล่าสัตว์ป่าเกาะลิบง
8.00 ขึ้นที่ไปฟังวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับพะยูนที่เขตรักห้ามล่าสัตว์ป่าเกาะลิบง
9.30 เดินทางกลับ เพื่อไปยังหอชมพะยูน จุดชมวิวบนเขาบาตูปูเต๊ะ เพื่อส่องหาพะยูน
10.30 ขึ้นไปยังหอชมพะยูน
11.45 เดินทางไปทานข้าวเที่ยง มื้อนี้ดูแลตัวเอง
13.00 เริ่มกิจกรรม เก็บขยะทั่วเกาะลิบง ที่หาดทุ่งหญ้าคา ที่สะพานหิน
และ ชายหาดอื่นๆทั่วเกาะ ลิบง
18.00 เตรียมตัวทาน buffet อาหารทะเล

วันที่ 9 เมษา
7:00 เดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หอชมพะยูนหลีกภัย
8:00 ทานอาหารเช้า
9:20 เดินทางออกจากเกาะลิบง เดินทางกลับบ้าน

ถ้าเรารักษาเวลาได้ เราอาจจะแวะซื้อของฝากตัวเมืองตรัง
ทั้งนี้พะยูนอาศัยตามธรรมชาติ เราอาจจะเจอ หรือ ไม่แล้วแต่โชค
เนื่องจากลิบง มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ 99.99% รบกวนเคารพศาสนาอิสลามครับ

**กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม**

สิ่งที่รวม อยู่ในทริป
1. เดินทาง ด้วย รถตู้ เหมา ส่วนตัว ไป กลับ (บวกท่องเที่ยว)
2. อาหาร 3 มื้อ รวม buffet seafood
3. เสื้อ ทริป 1ตัว
4. ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน
5. อุปกรณ์ ทำอาสาสมัคร ฯลฯ
6.ค่าที่พัก homestay
7. ค่าเรือขึ้นเกาะ และ ดูพะยูน