โดย นันทวัน กิจธนาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต
ทฤษฎี Pay it forward หรือแนวคิดที่ว่า เราทุกคนสามารถสร้างโลกให้น่าอยู่ได้ โดยเริ่มทำความดีจากตัวเราเอง ช่วยเหลือคนรอบข้างที่เดือดร้อน ขณะผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือก็มีหน้าที่ตอบแทนโดยการส่งมอบความช่วยเหลือ ให้แก่ผู้อื่นต่อไปเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส เพียงเท่านี้การทำความดีก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณไม่สิ้นสุด และสามารถเปลี่ยนโลกของเราให้น่าอยู่ได้
การสื่อสารไร้พรมแดนในยุค ไซเบอร์ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทฤษฎี Pay it forward นี้ชัดเจนขึ้น เช่น การส่งต่ออีเมล์เพื่อขอรับบริจาคโลหิต หรือการขอ ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ถือเป็นการส่งต่อความช่วยเหลือที่สร้างปรากฏการณ์และปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้น มาแล้วทั่วโลก
เราสามารถนำทฤษฎี Pay it forward มาปรับใช้ในการทำ CSR ในองค์กรธุรกิจได้ไม่ยาก โดยเริ่มด้วยการสร้างวัฒนธรรมการทำความดี ผลักดันให้เกิดเครือข่ายจิตอาสาในองค์กรอย่างกว้างขวาง โดยการสนับสนุนให้พนักงานรวมทั้งครอบครัวได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อ สังคมกับบริษัท และนำแนวคิดไปต่อยอดสร้างเครือข่ายการทำความดีให้กับชุมชนรอบๆ ตัวต่อไป
นิวยอร์ค ไลฟ์ อินชัวรันส์ หนึ่งในบริษัทประกันชีวิตชั้นนำและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอายุกว่า 164 ปี เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่สนับสนุนให้พนักงานและตัวแทนขายมีจิตอาสาและร่วมทำ ความดี ในรูปของกิจกรรมอาสาสมัครอย่างชัดเจน โดยได้จัดตั้งโครงการ Volunteer For Life ขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 เพื่อส่งเสริมให้ พนักงาน ตัวแทนขาย และครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครทั้งที่บริษัทจัดขึ้น หรือเข้าร่วมกับองค์กรการกุศลต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมและชุมชนที่อาศัยอยู่โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มากกว่าเน้นการช่วยเหลือในรูปของการบริจาคเงิน สิ่งของเท่านั้น ซึ่งแสดงออกถึงความมีน้ำใจและความ เอื้ออาทรได้อย่างดี โดยเชื่อว่าการทำ ความดีของเครือข่ายพนักงานจะนำไปสู่สังคมแห่งการทำความดีอย่างไม่มีที่สิ้น สุด ซึ่งวัฒนธรรมนี้ถูกถ่ายทอดไปสู่เครือข่าย นิวยอร์คไลฟ์ทั่วโลกด้วย
และ ในภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากเช่นนี้ นิวยอร์คไลฟ์ยังเดินหน้าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับสังคมโลกด้วยการริ เริ่มกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ Global Month of Service หรือเดือนแห่งการให้ เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสให้มีคุณภาพชีวิตและได้รับการศึกษาที่ ดีขึ้น เป็นการดำเนินรอยตาม
พันธกิจด้านมนุษยธรรมขององค์กรที่จะยืนเคียงข้างชุมชนทั้งยามสุขและยามทุกข์เสมอ
โดย พนักงาน ตัวแทน พนักงานเกษียณอายุและครอบครัวในเครือข่ายนิวยอร์คไลฟ์ 9 ประเทศ จากสหรัฐ ละตินอเมริกาและเอเชียกว่าหมื่นคนจะพร้อมใจกันเป็นอาสาสมัครร่วมกับองค์กร การกุศลต่างๆ หรือร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมที่แต่ละประเทศจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กเยาวชน ที่พิการและด้อยโอกาสพร้อมกันทั่วโลกเป็นครั้งแรกตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ เช่น ทั่วสหรัฐมีกิจกรรมอาสาสมัครได้ร่วมกับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรหลายแห่ง เช่น Big Brothers Big Sisters, City Year New York, Children for Children, Bereavement Center of Westchester, Blythedale Children”s Hospital, New York Cares ส่วนกิจกรรมอาสาสมัคร ได้แก่บูรณะและตกแต่งโรงเรียนให้สวยงามและแคมป์การศึกษา ในแมนฮัตตันจัดโอลิมปิกเกมส์ให้แก่เด็กในนิวเจอร์ซีย์ เยี่ยมเด็กที่ Children”s Medical Center ในเทกซัส จัดเลี้ยงอาหารเพื่อสุขภาพให้แก่เด็กๆ ร่วมกับ Ohio Children”s Hunger Alliance ในโอไฮโอ และในเนวาดาจัดชุดอุปกรณ์การศึกษาให้เด็กกว่า 1,300 คน เป็นต้น
ส่วน ในประเทศจีน ไฮเออร์ นิวยอร์คไลฟ์ได้ร่วมรำลึกครบรอบ 1 ปีของการเกิดโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมณฑลเสฉวน โดยเหล่าตัวแทนพนักงานและครอบครัวได้ร่วมกับ ECYP (Developing Center of The Young Pioneers) จัดงานออกร้านจำหน่ายสินค้า ประมูล และร่วมบริจาคสิ่งของ โดยรายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะมอบให้กับโรงเรียนต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น
สำหรับ ประเทศไทย ไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิตได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการ Global Month of Service เช่นกัน โดยพนักงานตัวแทนและครอบครัวกว่า 150 คนจะร่วมสานต่อกิจกรรม “เติมความรู้…ปันรอยยิ้ม” ปี 2 ให้แก่น้องๆ โรงเรียนบ้านเขาตะแคง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนอุปถัมภ์แห่งแรกของบริษัท โดยต่อยอดการช่วยเหลือจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มอุ่นเครื่องกิจกรรมตั้งแต่ช่วง pre volunteer day ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมพนักงานได้ร่วมประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้ เสริมทักษะภาษาไทย อังกฤษ การคำนวณให้น้อง การออกร้านขายของเพื่อระดมทุนการศึกษา รวบรวมสิ่งของบริจาคทั้งอุปกรณ์การเรียน หนังสือ เสื้อผ้า ของเล่น อาหาร ส่วนวัน volunteer day ยังได้ร่วมกันทาสีตกแต่งห้องสมุด ซึ่งบริษัทได้บูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด ขยายแปลงผักสวนครัว บ่อปลา ในโครงการอาหารกลางวันเพื่อน้อง ส่วนไฮไลต์เด็ดคือการจัดแคมป์การออมเพื่อให้ความรู้และปลูกฝังค่านิยมการออม แก่น้องกว่า 100 คน ภายใต้ปรัชญาการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย
หาก CSR หรือการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม เกิดขึ้นจากรากฐานของการทำความดีคืนสู่สังคมจริงๆ เพียงทุกองค์กรร่วมกันผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการทำดี สนับสนุนให้พนักงานมีจิตอาสาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สิ่งเหล่านี้จะย่อมนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของการทำ CSR อย่างแท้จริง