“อาสาแบ่งปันข้าวสาร วันเข้าพรรษา” Volunteer to give Rice for Disadvantaged Karen Children and Youth เสาร์ อาทิตย์ที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2562 July 27-28, 2019

“อาสาแบ่งปันข้าวสาร วันเข้าพรรษา”

Volunteer to give Rice for Disadvantaged Karen Children and Youth

เสาร์ อาทิตย์ที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2562

July 27-28, 2019

ศูนย์เด็กและเยาวชน กะเหรี่ยงปาเกอญอ บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

At Padeng, Karen Community, Petchburi

ทำบุญด้วยจิตอาสา วันเข้าพรรษานี้ เราชวนกันไปอาสาแบ่งปันข้าวสารให้ศูนย์เด็กกะเหรี่ยงและเยาวชนที่มาอาศัยอยู่ประจำในศูนย์ช่วงเปิดเทอมเพื่อสะดวกในการเดินทางมาเรียนหนังสือ ซึ่งโรงเรียนห่างไกลจากหมู่บ้าน อีกทั้งเด็กและเยาวชนทั้งหมดมาจากครอบครัวที่ยากจน ช่วงเปิดเทอมที่ศูนย์จึงขาดแคลนข้าวสารสำหรับเด็กเยาวชนที่มาพักประจำ          อาสาท่านใดสนใจเดินทางไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้กับเรา หรืออยากสมทบทุนข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ร่วมกับเราได้ตามรายรายละเอียดตามข้างล่าง

กำหนดการ

เสาร์ 27 กรกฎาคม 2562

07:30            พบกันที่สำนักงานตึกมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.)ชั้น ๒

                   ออกเดินทางด้วยรถตู้ เพื่อรักษาเวลากรุณารับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย                            หรือเตรียมมาทานบนรถ

11:00            เดินทางถึงศูนย์เด็ก

12:30            รับประทานอาหารเที่ยง

                   รู้จักศูนย์ และร่วมทำกิจกรรมกับเด็กและเยาวชน ผลิตสื่อดินกระดาษเอาชีพ                            และการเรียนรู้

                   มอบข้าวสารอาหารและสิ่งของแก่เด็กๆ

16:00            พักผ่อน

17:30            แบ่งกลุ่มช่วยเตรียมพื้นที่พัก และร่วมทำอาหารเย็นให้เด็กๆ  อาบน้ำ

19:00            รับประทานอาหารเย็น

20:00            แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน

21:00            พักผ่อน

อาทิตย์ 28 กรกฎาคม 2562

……..           อาบน้ำทำธุระส่วนตัว             

07:30            รับประทานอาหารเช้า

08:45            ต่อกิจกรรมสร้างสรรกับเด็กและเยาวชน และเยี่ยมชมหมู่บ้าน (*กรณีน้ำไม่มากเดินข้ามห้วยเข้าหมู่บ้านได้)

12:00            รับประทานอาหารเที่ยง

13:00            เดินทางกลับ (หากมีเวลาแวะจุดพักระหว่างทาง)

18:00            ถึง กทม.โดยสวัสดิภาพ

รับจำนวน        30 คน

การเข้าร่วม

เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม

เตรียมถุงนอน อุปกรณ์อาบน้ำ ขวดน้ำไว้เติม หมวก ร่ม รองเท้าแตะที่เปียกน้ำได้ และกางเกงที่สามารถถกขากางเกงเหนือเข่าได้ เผื่อต้องข้ามห้วยที่มีน้ำเข้าหมู่บ้าน ยาส่วนตัว(กรณีมีโรคประจำตัว) โดยเราจัดร่วมยาสามัญไว้ให้แล้ว

ถามตัวเองก่อนว่าพร้อมลุยหรือเปล่า  กินอยู่ง่าย พร้อมที่จะเรียนรู้ อดทนต่ออุปสรรคเล็กๆน้อยๆได้ และช่วยเหลืองานในหลายสถานการณ์ และเตรียมสติ รู้ตัวทั่วพร้อม

การสมัคร

สมัครทาง e-mail ได้ที่ volunteerservice@gmail.com  โดยแจ้งระบุกิจกรรม

“อาสาแบ่งปันข้าวสาร 27-28 ก.ค. ”   ชื่อ/สกุล …….  อาชีพ…… E-mail …… เบอร์โทร…….

ไม่รับสมัครทางโทร. กรณีสมัครเป็นกลุ่มต้องส่งชื่อผู้เข้าร่วมทุกท่านเพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า โดยให้ชื่อผู้ประสานงานหลักเป็นชื่อลำดับแรก

– สมทบกิจกรรมคนละ 1,450 บาท โดยสมทบหลังจากได้รับการตอบรับแล้วเท่านั้น

การสมทบกิจกรรมจะเป็นค่าเดินทาง 2 วัน ค่าอาหาร 4 มื้อ รวมเลี้ยงอาหารเด็กในศูนย์ สมทบ ที่พัก และเบ็ดเตล็ด และมอบสมทบเป็นค่าข้าวสารให้ศูนย์

โอนสมทบได้ที่ บัญชี กองทุนมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เลขที่บัญชี 075-2-14248-3 ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขารัชดาภิเษก 2 ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 ทั้งนี้เพื่อการจัดการล่วงหน้าของเจ้าหน้าที่และชุมชน หลังจากโอนแล้วให้ส่งหลักฐานการโอนมาที่ volunteerservice@gmail.com

>>>หากท่าน เพื่อนฝูงหรือครอบครัวต้องการสมทบเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ กรุณาแจ้งการสบทบกลับที่ volunteerservice@gmail.com   หรือโทร. 081-4884231 เนื่องจากเป็นบัญชีรวมกิจกรรมอาสา เราจะเบิกเฉพาะส่วนที่ท่านแจ้งกลับเท่านั้น

สมทบค่าใช้จ่ายในกิจกรรม

 **ท่านสามารถขอใบเสร็จเพื่อลดหย่อนภาษีได้

ประสานงาน     พลเมืองอาสา  – มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม

409 ซ.โรหิตสุข ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวง/ เขต ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320

โทร.             095 9977724 หรือ ที่ 02 6910437-9

E-mail           volunteerservice@gmail.com

Website        www.thaivolunteer.org

การเดินทางไปมูลนิธิฯ  ตั้งอยู่ที่ซอยรัชดาภิเษก 14  สามารถมาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน(MRT) ออกที่สถานีห้วยขวาง ประตู 1 เดินมาทาง ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เลี้ยวซ้ายเข้าซอย 5 ประมาณร้อยเมตร เห็นตึกซัมเมอร์ ซ้ายมือ เดินลอดใต้ถุนตึกจนสุดแล้วเลี้ยวซ้ายจะถึงตึกมูลนิธิฯซ้ายมือ ขึ้นไปรอชั้น 4 ได้เลย   มาทางรถเมล์ (สาย 136  137  172  179  185  206  514   73ก  517) ลง ป้าย ซ.รัชดาภิเษก 14 หรือป้ายโรงเรียนกุนนที (ใกล้แยกรัชดา-ห้วยขวาง และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวาง) เดินเข้าในซอย14เห็นร้านเซเว่นให้เลี้ยวขวา ตรงมาจนถึงยูแมนชั่นแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงมาเห็น Summer Mansion 3 เลี้ยวขวาเข้าทางศาลพระภูมิราว 30 เมตรจนสุดซอย ตึกมูลนิธิฯอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามซัมเมอร์ 1 หากท่านไม่ต้องการเดินสามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์บอกว่ามาตึกมูลนิธิ ฯ ติดซัมเมอร์แมนชั่น  ค่ารถ ประมาณ ๑๕ บาท * ท่านที่นำรถมาเอง   ให้จอดรถที่ลานจอดรถ Mansion 7 ปากซอยรัชดา 14 เท่านั้น โดยเสียค่าจอดรถเหมาจ่ายวันละ 40 บาท แล้วเดินมาที่มูลนิธิฯประมาณ 150 เมตร ให้ใช้เส้นทางเดินไปยังตึกมูลนิธิฯ เหมือนมารถเมล์ หรือนั่งมอเตอร์ไซต์เข้าไปได้ หรือกด GPS ตามลิ้ง >>>

https://www.google.co.th/maps/place/Thai+Volunteer+Service/@13.780391,100.5740853,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x30e29dd53df3311d:0x2b458f970a6f3115!8m2!3d13.780391!4d100.576274

เกี่ยวกับชาวกะเหรี่ยงป่าเด็ง

ชุมชนชาวกะเหรี่ยงปาเกอญอ บ้านป่าเด็ง ที่บ้างเรียกตัวเองว่ากะหร่าง  (ชาวบ้านบางส่วนบอกว่าเรียกตัวเอง บางส่วนบอกเพื่อนเรียก) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  ใกล้ชายแดนไทย – พม่า  ในตำบลป่าเด็งเป็นชุมชนใหญ่ มีประชากรประมาณ 1000 กว่าคน ด้วยเป็นเขตชายแดนไทยพม่าทำให้มีชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และในอดีตชาวกะเหรี่ยงฝั่งไทยและพม่าไปมาหาสู่ แต่งงานกันเป็นเรื่องปกติ จนมีเริ่มมีการปักปันเขตแดน การไปมาหาสู่ลดลง จนต้องอยู่เป็นหลักแหล่งมากขึ้น แต่กระนั้นชาวบ้านส่วนมากก็ยังอยู่ในหมู่บ้านตามป่าเขาห่างไกล  ความเจริญที่ขยายไปชนทบทมากขึ้น ทำให้การสื่อสารติดต่อคนภายนอกเพิ่มและมีถนนหนทางสะดวกในทางกลับกันก็ทำให้คนภายนอกได้เข้าไปเรียนรู้ชุมชนมากขึ้นด้วย ศูนย์เด็กเยาวชนบ้านป่าเด็ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่พูดได้ว่าอยู่ใกล้แนวชายแดน ไทย – พม่า   อยู่กลางหุบเขา  มีภูเขาล้อมรอบ    เพราะอยู่ห่างจากชายแดนพม่า   เป็นระยะทางราว 7  กม. ส่วนบางหมูบ้านห่างราว 3 กม. ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม   ปลูกพืชไร่  ปลูกกล้วย มะนาว และเลี้ยงโคนมจากโครงการพระราชดำริจนปัจจุบัน  แต่พบว่าในปัจจุบันมีชาวบ้านออกไปรับจ้างเป็นแรงงานภายนอก อาทิ ที่บริษัท Dole ซึ่งผลิตสัปรดกระป๋องส่งออก ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลจะอพยพลงมาสร้างที่พักเป็นกระต๊อบเล็กๆอยู่ด้านล่างเพื่อสะดวกในการเดินทางไปทำงานที่โรงงาน โดยมีบริการรถรับส่งของบริษัท และมีศูนย์เด็กเพื่อดูแลเด็กที่พ่อ แม่ต้องไปทำงานช่วงกลางวัน และรองรับเป็นหอพักประจำสำหรับเด็กจากหมู่บ้านห่างไกลมาเรียนหนังสือด้านล่าง ชาวบ้านพูดภาษากะเหรี่ยงเป็นหลัก ส่วนมากพูดภาษาไทยกลางได้ แต่สำเนียงจะแปล่ง