โครงการ มาแลกกันอ่าน

วันและเวลา :  ไม่มีกำหนด

สถานที่ :  ทุกพื้นที่ของประเทศไทย

จุดเริ่มต้นของโครงการ

ในปัจจุบันนับวันเด็กและเยาวชนก็ยิ่งเหินห่างจากการอ่านเข้าไปทุกวันด้วยปัจจัยหลายๆประการหนึ่งในนั้นคือเทคโนโลยีอันรวดเร็วและทันสมัยเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนทุกวัยมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ลูกเด็กเล็กแดง ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ ทำให้เด็กๆและเยาวชนไม่ค่อยที่สนใจในการอ่านสักเท่าไร  การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำหรับมาก หากขาดคุณสมบัติข้อนี้ชีวิตก็อยากที่จะประสบความสำเร็จ  ด้วยเหตุนี้เรา จึงมีแนวคิดที่จัดทำ”โครงการมาแลกกันอ่าน” ขึ้นเพื่ออย่างน้อยๆก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเด็กๆและเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจและรักการอ่านมากยิ่งขึ้น โดยหลักการและขั้นตอนแบบง่ายๆ คือ ใครมีหนังสืออะไรประเภทไหนที่อยากจะแลกกันอ่านก็สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนกันได้โดยผ่านทาง ชุมชนเพื่อเป็นสื่อกลางและเก็บข้อมูลของโครงการนี้

ความสำคัญของการอ่าน

การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชรา การอ่านทำให้รู้ข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ผู้อ่านมีความสุข มีความหวัง และมีความอยากรู้อยากเห็น อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง คือ พัฒนาการศึกษา พัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้เป็นคนทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และมีความอยากรู้อยากเห็น การที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ต้องอาศัยประชาชนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งความรู้ต่าง ๆ ก็ได้มาจากการอ่านนั่นเอง

จุดมุ่งหมายของการอ่าน

  1. อ่านเพื่อความรู้ ได้แก่ การอ่านจากหนังสือตำราทางวิชาการ สารคดีทางวิชาการ การวิจัยประเภทต่าง ๆ หรือการอ่านผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์ ควรอ่านอย่างหลากหลาย เพราะความรู้ในวิชาหนึ่ง อาจนำไปช่วยเสริมในอีกวิชาหนึ่งได้
  2. อ่านเพื่อความบันเทิงได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทสารคดีท่องเที่ยว นวนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแปล การ์ตูน บทประพันธ์ บทเพลง แม้จะเป็นการอ่านเพื่อความบันเทิง แต่ผู้อ่านจะได้ความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องด้วย
  3. อ่านเพื่อทราบข่าวสารความคิด ได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทบทความ บทวิจารณ์ ข่าว รายงานการประชุม ถ้าจะให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต้องเลือกอ่านให้หลากหลาย ไม่เจาะจงอ่านเฉพาะสื่อ ที่นำเสนอตรงกับความคิดของตน เพราะจะทำให้ได้มุมมอง ที่กว้างขึ้น ช่วยให้มีเหตุผลอื่น ๆ มาประกอบการวิจารณ์ วิเคราะห์ได้หลายมุมมองมากขึ้น
  4. อ่านเพื่อจุดประสงค์เฉพาะทางแต่ละครั้ง ได้แก่ การอ่านที่ไม่ได้เจาะจง แต่เป็นการอ่านในเรื่องที่ตนสนใจ หรืออยากรู้ เช่น การอ่านประกาศต่าง ๆ การอ่านโฆษณา แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์ สลากยา ข่าวสังคม ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา การอ่านประเภทนี้มักใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่เป็นการอ่านเพื่อให้ได้ความรู้และนำไปใช้ หรือนำไปเป็นหัวข้อสนทนา เชื่อมโยงการอ่าน สู่การวิเคราะห์ และคิดวิเคราะห์ บางครั้งก็อ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

     ประโยชน์ของการอ่าน

  1. การอ่านเป็นกระบวนการทางจิตใจที่ทรงพลัง การอ่านต่างจากการนั่งอยู่หน้ากล่องสี่เหลี่ยมเบาปัญญา
    (ทีวี ) เพราะการอ่านทำให้คุณได้ใช้สมอง    ระหว่างที่อ่านหนังสือคุณจะถูกผลักดันให้ค้นหาเหตุผลให้
    กับสรรพสิ่งที่คุณไม่คุ้นเคย          ภายใต้กระบวนการนี้คุณจะต้องใช้กลุ่มเซลล์สีเทาในสมองในการใช้
    ความคิดซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่มพูนสติปัญญา
  2. การอ่านช่วยให้ได้ประโยชน์เช่นเดียวกันจากการอ่านหนังสือ ระหว่างอ่านหนังสือ โดยเฉพาะเล่มที่มีความท้าทาย คุณจะพบว่าคุณมีโอกาสได้เรียนรู้กับศัพท์ใหม่ๆจำนวนมากซึ่งไม่อาจพบได้จากวิธีอื่น
  3. การอ่านช่วยให้การอ่านช่วยให้เกิดความเข้าใจในความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตต่างๆ
  4. การอ่านช่วยพัฒนาการสร้างสมาธิและรวมศูนย์ความคิด    ในการอ่านอย่างต่อเนื่องนานๆ   เราจำเป็นต้องพุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่เราอ่าน การอ่านหนังสือต่างจากการอ่านข้อความในนิตยสารหรือข้อความสั้นๆ   หรือจดหมายอิเล็กทรอนิคในอินเทอร์เน็ทซึ่งมักจะมีข้อมูลที่มีขนาดเล็ก แต่หนังสือจะบอกเรื่องราวแก่คุณ
  5. การอ่านเป็นการสร้างคุณค่าให้ตนเอง ยิ่งอ่านมากคุณก็ยิ่งมีความรู้ เมื่อมีความรู้มากขึ้น   คุณก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น   ความมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มพูนขึ้น ก็สร้างคุณค่าของตนเองให้แก่คุณ นี่คือปฏิกิริยาลูกโซ่ เนื่องจากคุณอ่านหนังสือได้ดี ผู้คนก็จะคอยถามหาคำตอบจากคุณ     ความรู้สึกที่คุณมีต่อตนเองก็ย่อมดีขึ้นอย่างแน่นอน
  6. การอ่านช่วยให้ความจำดีขึ้น มีการศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่า ถ้าคุณไม่ใช้ความจำที่มีอยู่ การอ่านทำให้เราต้องจดจำรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งข้อเท็จจริง และค่าตัวเลขต่างๆ และในการอ่านวรรณกรรม เราก็ต้องจดจำ   เค้าโครงเรื่อง  เนื้อหาสาระหลักตลอดจนตัวละครต่างๆ
  7. การอ่านช่วยให้คุณมีระเบียบวินัยมากขึ้น การจัดสรรเวลาสำหรับการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้ว่าเราควรทำ  แต่ใครล่ะจะจัดตารางเวลาเพื่อการอ่านไว้ทุกวัน น้อยมาก…นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเพิ่มการอ่านหนังสือเข้ามาในตารางกิจกรรมประจำวัน และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดจึงสามารถเสริมสร้างระเบียบวินัยได้
  8. การอ่านช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การอ่านเรื่องราวของความหลากหลายแห่งชีวิต และการเข้าไปสัมผัสกับแนวคิดใหม่ๆ     และข้อมูลที่เพิ่มพูนขึ้นจะช่วยให้คุณได้พัฒนาสมองซีกที่ดูแลเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะไปช่วยจุดประกายแห่งการสร้างนวัตกรรมขึ้นในกระบวนการใช้ความคิดของคุณ
  9. การอ่านช่วยให้คุณจะมีอะไรบางอย่างไว้พูดถึงเสมอ เคยบ้างไหมที่รู้สึกว่าตัวเองมีความรู้สึกอึดอัดที่ไม่รู้จะพูดคุยเรื่องอะไร เคยรู้สึกเกลียดตัวเองไหมที่ทำให้ตัวเองเสียหน้า คุณต้องการแก้ไขปัญหาแบบนี้ไหม ไม่ยากเลย เพียงคุณเริ่มอ่านหนังสือเท่านั้น การอ่านจะช่วยขยายอาณาบริเวณแห่งข้อมูลของคุณ คุณจะมีอะไรให้พูดถึงเสมอ เช่น คุณสามารถจะพูดคุยถึงโครงเรื่องในนวนิยายหลายเล่มที่คุณอ่าน คุณสามารถอภิปรายถึงสิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้จากหนังสือด้านธุรกิจต่างๆที่คุณกำลังอ่านอยู่ ความเป็นไปได้ในการแบ่งปันเรื่องราวกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีขีดจำกัดอีกต่อไป
  10. การอ่านช่วยบรรเทาความเบื่อหน่าย กฏข้อหนึ่งในหลายข้อที่ผมถือก็คือ ถ้าเริ่มรู้สึกเบื่อ ผมจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน สิ่งที่ผมค้นพบจากการจริงจังกับกฏข้อนี้ก็คือ ผมจะเกิดความสนใจในเรื่องราวของหนังสือแล้วหลุดจากความรู้สึกเบื่อหน่ายไปเลย ผมหมายถึงว่า ถ้าคุณเกิดรู้สึกเบื่อขึ้นมาบ้าง

 

**เปิดรับสมัคร : ทุกคน.ทุกเพศ.ทุกวัย

**คุณสมบัติผู้เข้าร่วม

ไม่จำกัดขอเพียงมีใจรักการอ่านและอยากแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านตังอักษรกับผู้อื่น

อยากเปิดโลกเปิดมุมมองผ่านการอ่านและตัวหนังสือ

หมายเหตุ :  สามารถเข้าไปติดตามใน Google plus ชุมชนแลกกันอ่าน และทาง เว็บ wordpress /komo 948 .com ได้ครับ

 

 

ตามรายละเอียดที่แนบมา

ค่าใช้จ่าย : ไม่มี