ผมเปลี่ยนไปแล้วคร้าบบ!! เปลี่ยนทั้งความคิด เปลี่ยนทั้งความรู้สึก ด้วยกิจกรรมเยาวชนจิตอาสาในโรงพยาบาล ผมไม่ชอบเรียน ผมไม่ชอบทำงานส่งอาจารย์ เกรดผมนะเหรอ 0.5 ก็เต็มที่แล้ว ผมชอบเล่นเกมส์ อาจารย์กับเพื่อนๆบอกว่าผมทำตัวไร้สาระไปวันๆ เวลาอยู่บ้านผมก็ไม่อยากช่วยงานอะไร พอผมเดินออกจากบ้านแม่ก็จะบ่นตามหลังแทบทุกครั้ง นี่คือ…ชีวิตประจำวันที่ผมเป็น ก่อนที่ผมจะเข้าร่วมเป็นนักเรียนแกนนำเยาวชนจิตอาสา ในโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนจิตอาสาในสถานศึกษา ของมูลนิธิกระจกเงา ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ (จำกัด) มหาชน |
เหน่ง หรือ แว่น(ที่เพื่อนๆเรียกกัน) นายดำรงศักดิ์ สุพรเงิน ว่าที่นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม เป็นลูกชายคนเล็กของพ่อแม่ เป็นคนพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา ชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ และมีสไตล์การแต่งตัวแนว Hip Hop ชอบเล่นดนตรี ถนัดการเล่นกีต้าร์ ซึ่งเขาได้ร่วมกับเพื่อนตั้งวงดนตรีในโรงเรียน ชีวิตประจำวันของเหน่งไม่ได้สนใจในเรื่องการเรียนมากนัก ติดเพื่อน และแอบหลับในชั่วโมงเรียนเป็นประจำ เหน่งทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจอยากจะทำเท่านั้น ซึ่งเรื่องที่สนใจไม่เกี่ยวกับการทำประโยชน์เพื่อสังคมเลย แต่มาวันนี้ สิ่งที่เคยเป็นชีวิตประจำวันของเหน่งได้เปลี่ยนแปลงไป หลังจากการได้เข้าร่วมเป็นแกนนำเยาวชนจิตอาสาของโรงเรียนนั่นเอง เหน่ง กับ กิจกรรมเยาวชนจิตอาสาครั้งแรกที่โรงพยาบาลเด็ก เหน่งเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกแรกว่า “ ผมไม่รู้เลยว่าเค้าให้ผมมาทำอะไร รู้แค่ว่ามาศึกษาดูงานจิตอาสาเท่านั้น แต่พอมาถึงต้องทำกิจกรรมเลย ก็งงๆนิดหน่อย ดีที่พี่ๆเค้าช่วยแนะนำ ผมก็เลยทำกิจกรรมตามๆเค้าไป ผมไม่คิดเลยว่าจะมีเด็กที่ป่วยตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ ความรู้สึกของผมครั้งแรกที่เห็นคือ รู้สึกสงสารเด็ก วันนี้ผมเลยคิดว่า ถ้าผมทำอะไรได้ผมก็จะทำให้เต็มที่ และการมาที่นี่ ทำให้ผมได้อุ้มเด็กเป็นครั้งแรกด้วยครับ ” หลังจากกิจกรรมครั้งแรกผ่านไป กลับสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดให้กับเหน่งเป็นอย่างมาก จากการที่เหน่งได้เห็นผู้ป่วยเด็กบางคนขาดโอกาสที่จะเรียน ขาดการใช้ชีวิตที่เป็นอิสระในสังคมภายนอกอย่างปกติ แต่ผู้ป่วยเด็กเหล่านี้ยังมีกำลังใจในการต่อสู้กับความเจ็บป่วย ยังมีความฝันที่จะเรียน และออกไปสู่การใช้ชีวิตที่ปกติได้ในสังคมภายนอก สิ่งเหล่านี้มันทำให้เหน่งคิดได้ว่า ตัวเขามีโอกาสได้เรียน ทำไมจึงไม่เรียน มีโอกาสได้ทำประโยชน์เพื่อคนอื่นๆอีกมากมาย ทำไมจึงไม่ลงมือทำ เมื่อได้มาสัมผัสด้วยตัวเองจึงทำให้เข้าใจในความสำคัญของการเรียน |
ผ่านการทำกิจกรรมมาประมาณ 4 เดือน ทุกวันนี้ เหน่งบอกตัวเองว่า ต้องตั้งใจเรียน และหาโอกาสทุกครั้งที่มี เพื่อไปทำกิจกรรมสร้างความสุขให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล และทำประโยชน์ในรูปแบบอื่น จากเกรดเฉลี่ยที่เคยได้เพียง 0.5 มาวันนี้ เหน่งมีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.82 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ทั้งอาจารย์ และ พ่อแม่ ต่างพากันทึ่ง กับสิ่งที่เหน่งทำได้ และได้ทำเพื่อคนอื่นๆอีกด้วย ครูบอกว่า “ เหน่งมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากเด็กที่เกเรมากๆ ไม่ชอบเข้าเรียน ไม่ชอบทำงานส่ง ชอบหนีไปนอน พ่อแม่ยังเอาไม่อยู่ ซึ่งพอเหน่งได้เข้าร่วมทางโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนจิตอาสาในสถาน ศึกษา มูลนิธิกระจกเงา และได้ไปลงพื้นที่ทำกิจกรรมก็ได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของเขา ภาพที่เขาอุ้มเด็กป่วย ถือเป็นภาพที่น่าชื่นชมและประทับใจ เพื่อนๆเขาก็บอกว่า เหน่งเปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ครูคิดว่าต่อไปเหน่งจะสามารถเป็นแกนนำเยาวชนจิตอาสาต้นแบบในการทำกิจกรรมให้ กับเด็กในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี ” อาจารย์สุภาภัค กล่าว |
ปัจจุบัน เหน่งยังคงมาร่วมลงพื้นที่ทำกิจกรรมสร้างความสุขให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล เด็กและโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่เสมอเมื่อมีเวลาว่าง จากไอดอลของเด็กเกเร ประจำโรงเรียนที่ปล่อยชีวิตไปวันๆ มาวันนี้ เหน่งน่าจะเรียกได้ว่า เป็นไอดอลของเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนที่อยากทำงานอาสาสมัคร ทำประโยชน์เพื่อสังคม ถือได้ว่า เหน่งเป็นตัวแทนแกนนำเยาวชนจิตอาสา ที่สร้างสิ่งที่เรียกว่า ความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้อย่างแท้จริง
“เมื่อก่อนผมไม่รู้หรอกว่า ผมจะทำอะไรเพื่อคนอื่นได้บ้าง แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ผมสามารถทำอะไรได้อีกมาก เพื่อคนอื่นที่เขามีโอกาสน้อยกว่าเรา ผมว่าผมมีความสุขนะที่ได้ทำ และผมก็คิดว่าวัยรุ่นก็สามารถทำอะไรดีๆ เพื่อส่วนรวมได้อีกมากมาย ” เหน่งกล่าวทิ้งท้าย