ฉลาดให้ ฉลาดคิด : ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน

การสอนให้ด็กได้เรียนรู้การเสียสละและเห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก กิจกรรม “อาสามาเติมรัก : ฉลาดให้ ฉลาดคิด” วันที่ 20-21 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนบ้านคลองอุดม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ฝ่ายส่งเสริมการให้ มูลนิธิกองทุนไทย ได้ ริเริ่มกิจกรรมระดมอาสาสมัครไปช่วยกันตกแต่ง ทาสี สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ห้องสมุดโรงเรียนบ้านคลองอุดมโดยมีอาสาสมัคร หลากกลุ่มมาร่วมด้วยช่วยกันอย่างแข็งขัน

บรรยากาศในการทำงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองโดยเฉพาะเด็กๆ ดูเหมือนจะมีความสุขมากที่ได้แต่งแต้มสีสันลงบนเครื่องเล่นต่างปลดปล่อย จินตนาการและความรู้สึกกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งช่วยกันขัดลอกเช็ดถูเครื่องเล่นอย่างสนุกสดใสสะท้อนให้เห็นถึงความ สุขจากการเป็นอาสาสมัครขณะที่เด็กๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านคลองอุดม ต่างก็มาช่วยกันดูแลเพื่อนใหม่และแขกผู้มาเยือนโรงเรียนอย่างเป็นมิตร

” การที่พ่อแม่พาเด็กๆ มาทำกิจกรรมเพื่อสังคมแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นแนวทางให้เขาได้พัฒนาตนเองและรู้จักการทำงานเพื่อสังคมเพื่อ ผู้อื่นที่ยังขาดแคลน เราอยากให้เด็กๆ เรียนรู้เรื่องการเสียสละ เริ่มจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆเท่าที่เราทำได้มีโอกาสถึงแม้ตอนนี้เด็กอาจยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมี ความหมายอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ทำ แม้งานที่ทำจะไม่ไช่อะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นขั้นแรกของการเรียนรู้ของเขาโอกาสต่อไปถ้ามีกิจกรรมอย่างนี้อีกก็ จะมาทำอีกเพราะเรารู้สึกว่าเด็กมีความสุข” ปุ๊ก – ธารทิพย์ สุวรรณดาลัด และอาสาสมัครครอบครัวสุวรรณดาลัด ให้ความเห็น

กิจกรรมนอกจากจะเป็นการสร้างบรรยากาศในการแต่งแต้มสนามเด็กเล่นแล้ว ห้องสมุดเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่เหล่าอาสาสมัคราวงแผนในการจัดระบบระเบียบใหม่ ด้วยแนวคิด “ห้องสมุดสี่มิติ” ที่มีทั้งมุมการอ่านหนังสือ ฝึกเชาว์ปัญญาด้วยการเล่นและการเรียนรู้ผ่านวีดีทัศน์ จะช่วยเสริมสร้างให้เด็กได้มีการเรียนรู้ที่หลากหลายและพัฒนาให้มีสติปัญญา และทัศนคติในการเรียนมากขึ้น อาสาสมัครร่วม 40 ชีวิตต่างขะมักขะเม่นจัดช่วยกันทำความสะอาดห้องสมุดก่อนค่ำ เพราะอาสาสมัครบางส่วนที่มาเป็นครอบครัวและมีเด็กเล็กจะต้องกลับก่อนเพราะ ไม่สะดวกในการค้างคืน

“ห้องสมุด เป็นเหมือนเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กเรียนรู้เพื่อจะเติบโตเป็น ผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ดังนั้นห้องสมุดจะต้องเป็นสถานที่สำหรับเด็กทุกคน เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญมากภาระกิจของเราจึงจะระดมอาสาสมัครช่วยกันออกแบบ ห้องสมุดที่จะให้เด็กๆ เข้ามาแล้วได้กระบวนการพัฒนาครบทุกอย่าง อาสาสมัครตัวน้อยต่างช่วยกันออกความคิดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองถึงแม้จะเป็นเด็กก็สามารถที่จะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเอง มีให้เพื่อนได้เป็นการเรียนรู้ทั้งสองทางทั้งคนให้และคนรับ พ่อแม่อย่างเราก็รู้สึกภูมิใจตามไปด้วยที่ได้เห็นลูกเริ่มเข้าใจคนอื่นมาก ขึ้น รวมทั้งครอบครัวได้มีโอกาสทำอะไรดีร่วมกัน แค่นี้ก็น่าดีใจแล้ว” นุ๊ก – เพียงดาว เสรีสิทธิสกุลชัย พร้อมทั้งอาสาสมัครครอบครัวเสรีสิทธิสกุลชัย กล่าว

โรงเรียนบ้านคลองอุดม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลนทั้งอุปกรณ์การเรียนและหนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่หนังสือที่มีก็เก่าและไม่เพียงพอกับเด็ก ทำให้เด็กๆ ไม่ได้รับการพัฒนาทางการอ่านเท่าที่ควรปีที่ผ่านมาโรงเรียนได้ร่วมมือกับ มูลนิธิกองทุนไทยบูรณะซ่อมแซมทาสีห้องเรียนต่างๆ กิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดของการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่ต่อเนื่อง จากปี 2551

” กิจกรรมปรับปรุงห้องสมุดนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมโรงเรียนต้องการเพราะหนังสือ ที่เรามีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน อีกทั้งหนังสือส่วนใหญ่ก็อยู่ในสภาพที่ใช้งานไม่ได้ ที่ผ่านมาเราก็คิดที่จะปรับปรุงห้องสมุดแต่เราก็ไม่มีงบประมาณ ความช่วยเหลือจากอาสาสมัครและ มูลนิธิกองทุนไทย ในครั้งนี้มีประโยชน์และคุณค่ากับเด็กๆ อย่างมาก” อาจารย์วินัย อาจหาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองอุดม เผยความรู้สึก

การเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของเด็ก โดยเฉพาะการมีครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระบวนการเหล่านั้นการทำความ ดี หรือการทำงานเพื่อสังคมของพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการกระตุ้นเตือนให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจถึงการทำงาน เพื่อผู้อื่น การมีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น และการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

” ตอนนี้เด็กๆ ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมีความหมายอย่างไร แต่อย่างน้อยเขาทำมันอย่างมีความสุขซึ่งก็น่าจะเป็นจุดเริ่มที่ดีในการเรียน รู้ตันเองและผู้อื่น โดยมีครอบครัวอยู่เคียงข้างซึ่งเป็นเรื่องดีอย่างมาก เพราะสายใยของครอบครัวน่าจะทำให้เขาเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป” จันทร์ชญาพัทธ์ จิตสภานันท์ คุณแม่อาสา จากครอบครัวจิตสภานันท์กล่าวส่งท้าย

การเปิดโอกาสในเด็กๆ ในสังคมเมืองได้ไปเรียนรู้สังคมภายนอก เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์และทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น ในสังคม การออกไปทำกิจกรรมพร้อมกันทั้งครอบครัวยังส่งผลต่อการเสริมสร้างความเข้าใจ ในครอบครัวมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเด็กในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคมภายนอกด้วย ที่สำคัญหากทุกคนในสังคมเห็นคุณค่าและให้ความสนใจกับการทำงานเพื่อสังคมมาก ขึ้น พร้อมที่จะให้กับผู้ที่ด้อยกว่าในสังคมสิ่งเหล่านี้ อาจทำให้เกิดความหวังว่าเราทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้นได้ การให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการเป็นพลังในการสร้างสังคมที่ดีในอนาคตต่อไป

Credit : Give2all