** จดหมายฉบับนี้ ** สตรีจากรัฐฉานที่ชื่อ Shining ซึ่งเป็นนักพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมของไทยใหญ่นำมาอ่านภายในงานดนตรีและเวที สาธารณะเพื่อความช่วยเหลือเพื่อนผู้ประสบภัยในพม่า โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดิฉันยินดีที่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนชาวพม่าซึ่งกำลังเผชิญ กับความยากลำบากจากไซโคลนนาร์กีส ทั้งนี้ดิฉันมีความดีใจมากที่ได้เห็นความกรุณา และการช่วยเหลือสนับสนุนจากเพื่อนชาวไทยและนานาประเทศ
ดิฉันหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจเป็นอย่างดีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประเทศพม่า ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ทุกข์ทรมาน และกดดันภายใต้เผด็จการทหาร ดิฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกทุกข์และไร้ซึ่งอำนาจที่ประชาชนชาวพม่าได้ รู้สึกในปัจจุบันนี้ได้ ประชาชนจำนวนมากได้สูญเสียชีวิต และอีกเป็นจำนวนมากได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างอย่าง เนื่องจากพวกเขาถูกครอบงำโดยเผด็จการที่เข้มงวดและทุจริตอย่างรัฐบาลพม่า ความทุกข์ทรมานดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด เพื่อฟื้นฟูและบรรเทาความต้องการของผู้ประสบเคราะห์กรรมเหล่านั้น ดิฉันขอเรียกร้องให้เพื่อนชาวไทยช่วยสนับสนุนพวกเรา ดังนี้
สำหรับแผนระยะสั้น
1. เราร้องขอให้เพื่อนชาวไทยช่วยเหลือเราในการกระตุ้นให้รัฐบาลไทยเจรจาต่อรอง กับทหารพม่าเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ ในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติสูงสุดบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี
2. กรุณาลงนามในหนังสือร้องเรียนหรือกดดัน UN ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยไม่รั้งรอการอนุญาตจากทหารพม่า อย่าได้ปล่อยเวลาไปอีก มิฉะนั้นอาจมีประชาชนอีกจำนวนมากต้องเสียชีวิตในเร็ววันนี้ ก่อนหน้านี้ความช่วยเหลือทั้งหมดไม่ได้มุ่งตรงไปสู่ผู้ที่ต้องการอย่างแท้ จริง ซึ่งเราจะหาทางเข้าถึงประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือให้ได้
3. กรุณาบริจาคเงินหรือชวนเชิญบุคคลอื่นๆให้ช่วยเหลือเท่าที่ท่านจะทำได้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้
4. กรุณาอย่าละทิ้ง หรือดูดายประชาชนแถบชายแดน เนื่องจากองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพกำลังประสบปัญหาจากการขึ้นราคาน้ำมันและ อาหาร ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องล้มเลิกโครงการไป และขอให้คนไทยเข้าใจคนพม่าที่เข้ามาอาศัย มาทำงานในบ้านเมืองของท่าน ว่าไม่พวกเราจึงจึงไม่สามารถมีชีวิต หรือทำงานได้เมื่ออยู่ในพม่า จากเหตุการณ์พายุนาร์กีสครั้งนี้ ท่านคงเห็นแล้วว่ารัฐบาลทหารพม่าโหดร้ายกับประชาชนอย่างไร ขณะที่ประชาชนกำลังต้องการึความช่วยเหลืออย่างที่สุด รัฐบาลกับมุ่งความสนใจไปที่อื่น ละทิ้งประชาชนให้นอนรอความตาย ท่านคงเข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมพวกเราจึงไม่อยากอยู่พม่า อยากมาเมืองไทย
5. หากผู้ใดมีรูปภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเป็นเรื่องของการบรรเทาทุกข์ กรุณาเปิดเผยรูปภาพเหล่านั้น
สำหรับแผนระยะยาว
1. เราต้องการให้เพื่อนชาวไทยกระตุ้นรัฐบาลไทยหรือบริษัทไทยให้สนใจประเด็นด้าน สิทธิมนุษยชนในพม่าก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เนื่องจากโครงการใหญ่ๆหลายโครงการในพม่าส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้โครงการเขื่อน Tasang ในรัฐฉานก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การบังคับแรงงาน การบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน การฆ่าฟันและการข่มขืน ชาวพม่าจำนวนมากถูกย้าย หลักแหล่งและอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะไทย ทั้งนี้โปรดเข้าใจว่ารายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายแก๊สและจากเขื่อนจะถูกใช้ใน ทางทหารเป็นส่วนใหญ่ กรุณาเข้าใจและเห็นใจแรงงานอพยพในไทย เพราะพวกเขาบางส่วนไม่มีบ้านจะให้กลับ ดิฉันจึงขอร้องให้เห็นใจพวกเขาและช่วยพวกเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
2. ภัยพิบัติจากพายุไซโคลนนาร์กีส เป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงที่ประเทศพม่าไม่เคยเจอมาก่อน ความเสียหายต่อทรัพย์สินและประชาชนที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ยังถูกซ้ำเติมจากน้ำมือของรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือล่าช้า และรีรอที่จะรับความช่วยเหลือจากภายนอก แต่คนเล็กๆ ประชาชนกำลังต่อสู้และทุกข์ทรมาณอยู่ขณะนี้ ภัยครั้งนี้เทียบเท่า หรือ ยิ่งใหญ่กว่าสึนามิในประเทศไทย ดิฉันอยากจะขอให้คนไทยที่เคยมีประสบการณ์รับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ อย่างสึนามิ เมื่อ 3 ปีก่อน ให้ความช่วยเหลือ แบ่งปันประสบการณ์ ในการฟื้นฟูประเทศ ฟี้นฟูชุมชน ผู้รอดชีวิตให้กลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม ด้วยความร่วมมือของประชาชนที่ไม่แบ่งแยกชนชาติ ดิฉันหวังว่าเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ จะเป็นหนทางให้เราทั้งสองประเทศช่วยเหลือ และเข้าใจกันมากขึ้น