ได้ “ที”ทำดี เพื่อคนอื่น “ฤทธิณรงค์รอน” โรงเรียนดังย่านบางกอกใหญ่ ที่มีสีประจำโรงเรียนคือสีเขียว ขาว ซึ่งมีความหมายว่าเป็นแหล่งรวมความสงบร่มเย็นแต่เข้มแข็งและอดทน สถานที่ตั้งของโรงเรียนนี้อยู่ในเขตกรุงธนบุรีที่ถือเป็นเขตอนุรักษ์เมือง เก่า แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม จากสภาพแวดล้อมที่อบอวลไปด้วยธรรมชาติ กรุ่นกลิ่นไอแห่งวัฒนธรรม หน้าโรงเรียนมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยวัดวาอารามที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต ที่แห่งนี้จึงได้หล่อหลอมเด็กหนุ่มที่มีสายตายาวไกลเกินวัย น้องที หรือ นายที คงประดิษฐ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หนุ่มหัวเกรียนในย่านกรุงเก่า น้องที บอกกล่าวถึงความเป็นมาในอุปนิสัยส่วนตัวว่า “ผมชอบทำกิจกรรมเป็นชีวิตจิตใจครับ ต้องหาอะไรทำที่นอกเหนือจากการเรียนอยู่เสมอ” และด้วยบุคลิกที่กระตือรือร้น รับผิดชอบในหน้าที่ที่นอกเหนือจากการเรียน ทำให้เข้าตาใครต่อใครหลายคน จนได้รับเลือกเป็น “ประธานนักเรียน” จากหน้าที่ความเป็นประธานนักเรียนนี้ทำให้ “ที” ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่กลับหากิจกรรมมาทำไม่เว้นแต่ละวัน “ผมมีกิจกรรมทำทุกอาทิตย์เลยครับ อย่างที่ทำอยู่ขณะนี้ คือ การเก็บขวดน้ำเปล่าซึ่งเป็นตราของโรงเรียนมาขาย จากที่เห็นว่าขวดน้ำเปล่าเหลือทิ้งก่อให้เกิดขยะ ผมกับเพื่อนๆ จึงรวบรวมขวดน้ำเปล่าเหล่านี้ไปขายให้กับพ่อค้าเพื่อใช้รีไซเคิลต่อครับ”
น้องทีบอกว่า ราคาของขวดน้ำเปล่าที่มีตราของโรงเรียนนี้ จะขายได้ราคาสูงกว่าขวดน้ำทั่วไป เนื่องจากเป็นขวดน้ำที่ไม่สกปรก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย พ่อค้าจึงให้ราคาอยู่ที่ขวดละ 1 บาท แต่หากเป็นขวดน้ำอัดลมหรือขวดอื่นๆ จะมีราคาที่ถูกกว่านี้ โดยในหนึ่งอาทิตย์จะเก็บได้เต็มถุงๆ ละประมาณ 200 ขวด อาทิตย์หนึ่งได้ประมาณ 4 ถุงคิดเป็นเงินเกือบ 800 บาทต่ออาทิตย์เลยทีเดียว เมื่อครบหนึ่งเดือนก็จะนำเงินนี้ไปฝากธนาคารเข้าบัญชีของคณะกรรมการนักเรียน สำหรับเงินที่ได้มา ทีและเพื่อนๆก็นำไปเป็นเงินกองกลางสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆในโรงเรียน เช่น เมื่อมีพิธีไหว้ครู เป็นต้น โดยเงินเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นค่าใช้จ่ายของดอกไม้ ธูปเทียน หรือค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมต่างๆเพื่อโรงเรียน น้องที และเพื่อนๆ ไม่หยุดแค่นั้น แต่ยังริเริ่มจัดให้มี กิจกรรม Walk Rally ซึ่งจะรับสมัครนักเรียนในโรงเรียนและแบ่งเป็นกลุ่มละ 7 คน เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้เดินทางไปในสถานที่สำคัญรอบๆโรงเรียน 6 แห่ง โดยให้เงินเพียง 300 บาทเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง “แต่ละกลุ่มจึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดเพราะจำกัดวงเงินแค่นั้น อย่างจะซื้อน้ำก็ต้องแบ่งกันทาน ทำเกิดการรู้จักแบ่งปันซึ่งกันและกันด้วยครับ” สำหรับการสำรวจเส้นทางเพื่อศึกษาสถานที่สำคัญรอบโรงเรียน อาทิ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และฟากตะวันออกของถนนอรุณอมรินทร์ ระหว่างคลองนครบาลหรือคลองวัดแจ้งกับพระราชวังเดิม ที่มีประวัติน่าศึกษาอีกมากมายด้วยความเป็นวัดเก่าแก่โบราณสร้างมาแต่ครั้ง สมัยอยุธยา
น้องทีและเพื่อนๆ จึงกำหนดให้เป็นเส้นทางหนึ่งในกิจกรรมนี้ เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนได้มีโอกาสรู้จักสิ่งรอบตัวด้วยการไปศึกษา ประวัติของวัดอรุณฯ รวมทั้งยังกำหนดกิจกรรมให้มีการขึ้นบันไดที่พระปรางค์วัดอรุณฯ ซึ่งสูงชัน เพื่อให้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้เกิดสติ สมาธิ และมีความอดทน หรือถ้าเอ่ยถึง วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องนึกถึงคือ หลวงพ่อโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จพระราชาคณะที่มีชื่อเสียงของวัดนี้ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าพุทธศาสนิกชน ท่านยังเป็นผู้ที่นำเอาบทสวดอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตกทอดมาจากลังกามาดัดแปลง แต่งเติมให้สมบูรณ์ขึ้น จนกลายเป็น “พระคาถาชินบัญชร”ที่รู้จักกันดี กิจกรรรมของน้องทีและเพื่อนๆ จึงกำหนดให้มีโอกาสไปสวดคาถาชินบัญชรในวัดระฆังฯ ตามความเชื่อว่า จะส่งผลให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเกิดสิริมงคลแก่ตนเอง และเมื่อกิจกรรมศึกษาสถานที่สำคัญรอบๆ โรงเรียนเหล่านี้จบลง แต่ละกลุ่มจะต้องมาสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้เพื่อนๆ ทั้งหมดที่เข้าร่วมกิจกรรมฟัง เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้เกิดการเรียนรู้และสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจใน วัฒนธรรมความเป็นไทย ไม่หยุดแค่นั้นน้องทีบอกว่า “ผมยังทำ “โครงการคืนชีพให้กระดาษ (Paper ranger) ด้วยครับ โดยกิจกรรมนี้เป็นการตอบโจทย์กระดาษหน้าเดียวที่เหลือใช้ ซึ่งเพื่อนๆมักจะนำมาทำเป็นลูกบอลเตะเล่นบนอาคารหรือทิ้งเกลื่อนกลาดโดยไม่ เกิดประโยชน์เท่าที่ควร อีกทั้งหากจะนำมาชั่งกิโลขายก็ไม่คุ้มหรือจะทิ้งก็เสียดาย ผมกับเพื่อนๆจึงรับบริจาคกระดาษที่ใช้แล้วหน้าเดียวมาปรับปรุงใหม่ โดยการเข้าเล่มแปลงร่างให้สวยงามกลายเป็นสมุดจด ไดอารี่ หรือสมุดฉีกที่น่าใช้น่าเก็บ และนำผลงานเหล่านี้กลับมาขายให้กับผู้ที่สนใจด้วยราคาที่ถูกกว่า โดยจะนำเงินที่ได้เข้าสมทบกับเงินกองกลางเพื่อจะได้ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียนในโรงเรียนต่อไปด้วย” นอกจากนี้ น้องที ยังได้มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อคนอื่นๆต่อไปอีก
จากการชักชวนของเพื่อนต่างโรงเรียนให้รู้จักกับ โครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนจิตอาสาในสถานศึกษา ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิกระจกเงา ภายใต้การสนับสนุนจาก มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) “ครั้งแรกที่รู้จักโครงการนี้ ผมได้มีโอกาสไปสังเกตการณ์และร่วมลงพื้นที่ทำงานจิตอาสาในโรงพยาบาลเด็ก โดยมีพี่ๆจากมูลนิธิกระจกเงาคอยให้คำแนะนำ กิจกรรมที่ทำก็ไปวาดภาพระบายสี เป่าลูกโป่งให้น้องๆ ผู้ป่วย ครั้งหนึ่งได้เจอกับน้องกำลังนั่งร้องไห้ ผมเข้าไปคุย ชวนเล่น สักพักน้องก็เกิดอาการหอบ ผมต้องรีบวิ่งไปบอกพี่ๆ เจ้าหน้าที่พยาบาล หลังจากนั้นน้องมีอาการดีขึ้น ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับจากการทำงานนี้ มันคือ ความภูมิใจ รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงาน” ด้วยความประทับใจนี้ทำให้ น้องที อยากทำความดีเพื่อคนอื่นอีก โดยการนำกิจกรรมเหล่านี้กลับไปริเริ่มที่โรงเรียน และขณะนี้กำลังวางแผนหาช่วงเวลาเหมาะสม เพื่อจะลงพื้นที่ทำงานจิตอาสาในโรงพยาบาล ภารกิจของประธานน้อย นักกิจกรรมตัวยง จึงยังคงดำเนินงานอย่างเข้มแข็งทำให้เกิดพลังที่จะได้ “ที” หาโอกาสทำความดีอย่างต่อเนื่อง