อย่าบอกว่าไม่ มีเวลา….เพราะเรามีเวลาเท่ากันทุกคน
หน้าที่การงานกับความดี”มัก เป็นเส้น ขนานที่ไม่เคยมาบรรจบกันในชีวิตคนส่วนใหญ่ คนเราจะทำดีก็ต่อเมื่อว่างเว้นจากการทำงานก่อนเสมอ บ้างก็บอกว่าไม่มีเวลา บ้างก็บอกว่าแค่ทำชีวิตของฉันให้อยู่รอด ไม่เดือดร้อนใครก็พอแล้ว แต่เรื่องราวเพียงไม่กี่บรรทัดถัดจากนี้ เป็นตัวอย่างเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้ว่า เด็กสาวคนนี้ยืนอยู่ตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่
เธอบอกว่า…โอกาส และเวลาแห่งการทำดีมีอยู่ทุกหนแห่ง แต่เราต้องเป็นผู้ก้าวออกมาจากโลกแคบๆ ของตัวเองเสียก่อน
นางสาวณฐพรรณ นิมิตรพรสุโข หรือ“ไอซ์”นัก เรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เป็นผู้หนึ่งที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนจิตอาสาในสถานศึกษา ซึ่งดำเนินการโดยมูลนิธิกระจกเงา ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ (จำกัด) มหาชน ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมให้มีจิตสาธารณะจากการเรียนรู้สังคมนอกห้องเรียน รวมถึงการลงมือทำ และได้เห็นข้อเท็จจริงในปัญหาที่ประสบมาด้วยตนเอง
วันนี้ไอซ์ได้เรียนรู้ว่า โลกภายนอกยังมีผู้ด้อยโอกาสอีกมากมาย…
จุดเริ่มต้นคนอาสา…มาจากใจ –โดยส่วนตัวแล้ว“ไอ ซ์”เป็นเด็กสาวอารมณ์อ่อนไหว เมื่อใดที่พบเห็นผู้ที่กำลังเดือดร้อนก็มักเข้าไปช่วยเหลือ ไอ ซ์ บอกว่าเห็นใครที่กำลังทุกข์ยาก ก็อดที่จะรู้สึกสงสาร เห็นใจไม่ได้ และไม่เคยปล่อยโอกาสที่จะเอื้อเฟื้อน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้อยู่เสมอ กอรปกับเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่งชอบทำ กิจกรรมเป็นชีวิตจิตใจ ไอซ์จึงเข้าไปช่วยเหลือ งานชุมนุมจิตอาสาของโรงเรียน อันเป็นที่มาให้เธอได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว
“หนู ชอบช่วยเหลือคนอื่น เห็นใครก็สงสารเขาไปหมด คิดว่าเรามี แต่คนอื่นไม่มีอย่างเรา ก็อยากแบ่งปันให้เขาได้มีบ้าง มีในที่นี้ก็คือของที่จำเป็น สิ่งที่เขาควรไ ด้ควรมี สิทธิที่เขาน่าจะได้มีเหมือนเรา เด็กอีกเยอะแยะที่เขาไม่มีที่เรียน ไม่มีหนังสือ ในเมื่อเราพอมีก็อยากที่จะช่วยให้เขาได้เรียนด้วย นิดหนึ่งก็ยังดี”
เรียนและงาน ความดีคือหน้าที่ –แม้แต่ละวัน ไอซ์จะต้องฟันฝ่ากับการเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะสอบเข้าเรียนต่อชั้นอุดมศึกษา แต่ “ไอซ์” ก็ไม่ปล่อยให้การสอบมาเป็นอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการทำกิจกรรมของเธอ และการเป็นหัวหน้าชุมนุมจิตอาสาในโรงเรียนยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่า“ชีวิตไม่ควร ที่จะเร่งเรียนให้เก่งอย่างเดียว”หาก แต่การ ฝึกฝนตนเองเพื่อเรียนรู้โลกนอกห้องเรียนน่าจะทำให้ชีวิตมีความหมายและคุณค่า ขึ้นมาได้บ้าง จึงพยายามบริหารเวลาให้เหมาะสม มีวินัยในตัวเองเพื่อไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีปัญหา ทั้งยังมีน้องๆ ม.ต้นในชุมนุมที่เปรียบเสมือนต้นกล้าใหม่ให้ไอซ์และเพื่อนๆม.ปลาย ได้เพาะพันธุ์ส่งต่อความดีงามต่อไป
ไอซ์บอกว่า กิจกรรมของชุมนุมก็มีหลายอย่าง ทั้งการรับบริจาคหนังสือเพื่อนำไปให้เด็กด้อยโอกาส ไปบริจาคสิ่งของให้โรงเรียน ทุรกันดาร ไปอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง ฯลฯ แล้วแต่ว่าเราจะจัดกิจกรรมอะไรขึ้นมา จะร่วมกันคิดแล้วปรึกษากับคุณครู ซึ่งในชุมนุมจะมีสมาชิกประมาณ 20 คน บางครั้งเราก็ไปชักชวนเพื่อนๆ จากชุมชุมอื่นมาร่วมกิจกรรมด้วย คือทุกคนสามารถมาร่วมกันทำความดีได้หมด ก็พยายามชักชวนสมาชิกให้ได้มากที่สุด
จิตอาสา –ความทรงจำที่น่าประทับใจจากปัญหาระดับประเทศโจร ใต้ซุ่มยิงชุดคุ้มครองครู ผู้ก่อการร้ายลอบ วาง ระเบิดทหารชุดลาดตระเวน เด็กขอทาน โรงเรียนยากจน คนแก่ข้ามถนน ไปจนถึงสถานการณ์พื้นๆ อย่างเช่น คนตาบอดขึ้นรถเมล์ “ไอซ์” บอกว่าเราทุกคนสามารถเข้าไปมีบทบาทใดบทบาทหนึ่งได้เสมอ วันนี้ไอซ์จึงเลือกทำกิจกรรมจิตอาสาในโรงพยาบาล ด้วยการเข้าไปดูแลผู้ป่วยเด็กที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) และผู้ป่วยทหารโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยลักษณะกิจกรรมที่ทำมีจุดมุ่งหวังเพื่อสร้างรอยยิ้ม ความสุขให้แก่ผู้ขาดโอกาสเหล่านี้ ผ่านกิจกรรมสันทนาการ อาทิ เล่นดนตรี เล่นเกม สอนเด็กวาดรูป จัดบอร์ดนิทรรศการอ่านนิทาน และพูดคุยเพื่อคลายเครียดกับผู้ป่วย เป็นต้น
“ประสบการณ์ สอนให้รู้ว่ายังมีคนอื่นด้อยโอกาส กว่าเรา เรามีโอกาสแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องการใช้ชีวิต ใครที่อยากลองทำกิจกรรมแบบนี้ก็ลองดูว่าตัวเองถนัดอะไร ถึงแม้ไม่มีเวลาที่จะไปทำงานกับโรงพยาบาล แต่ก็ทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย เพราะสังคมไทยยังมีเรื่องที่ต้องการน้ำใจอยู่อีกเยอะมาก เราถนัดด้านไหนก็ไปทางนั้น อย่าบอกว่าไม่มีเวลาเพราะเรามีเวลาเท่ากันทุกคน”
ติดตามความฝัน…ทุกวันคือการทำดีแม้ว่าสิ่งของและกำลังใจที่ไอซ์นำไป มอบให้ผู้ไร้โอกาสอาจไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากมายพอที่จะทำให้ชีวิตของพวก เขาเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ หาก แต่ไอซ์ก็สุขใจจากการ “ให้” เล็กๆ น้อยๆ โดยบอกว่า ความดีนั้นคงไม่ได้ทำกันแค่วันเดียว ครั้งเดียว เดือนละครั้งสองครั้ง หากแต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ทำตลอดเวลา เท่าที่กำลังเราจะเอื้ออำนวย และแน่นอนความใฝ่ฝันของเด็กสาวผู้นี้คงไม่ได้ หยุดลงเท่านี้ “ไอซ์” ยังวาดหวังถึงอนาคตข้างหน้าว่าอยากทำงานเป็นพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกๆ วัน
“ตั้งใจ ไว้ว่าจะสอบเข้าคณะพยาบาล เพราะเราชอบที่จะได้ช่วยเหลือคน ชอบดูแลคนอื่น ใจรักด้านนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ลองไปสัมผัสงานจิตอาสาที่โรงพยาบาลเด็กดูก่อน นอกจากได้ช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ยังได้ฝึกนิสัยตัวเอง ไม่ให้เอาเปรียบคนอื่น ได้รู้จักแบ่งปัน ได้ดูแลจิตใจคนป่วย การช่วยเหลือคนอื่นไม่ต้องป่าวประกาศให้ใครรับรู้ เพียงเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ก็มีความสุขแบบง่ายๆ ได้แล้ว”
ไม่ ว่าปลายทางของการทำความดีจะไปถึงจุดสูงสุดที่ใด ก็คงไม่สำคัญเท่ากับ อย่างน้อยยังมีสิ่งน่ายินดีให้ผู้ทำดีได้มีความสุขกับตัวเองทุกๆ วัน