สุนทรพจน์ของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
เนื่องในวันอาสาสมัครสากล 5 ธันวาคม 2551
วันอาสาสมัครสากลในปีนี้มาพร้อมกับปัญหายุ่งยากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสูงขึ้นของราคา
อาหาร และราคาเชื้อเพลิง รวมไปจนถึงปัญหาภาวะโลกร้อน (Climate Change) และปัญหา
วิกฤติการณ์การเงินโลกด้วย
ในการแก้ไขปัญหาต่างๆข้างต้นนั้นต้องใช้ทรัพยากรหลายอย่าง ซึ่งการอาสาสมัครก็เป็นที่ประจักษ์
แล้วว่าเป็นทรัพยากรที่มีพลังอย่างมากในการที่จะเสริมสร้างการพัฒนาและการสร้างสันติภาพ ดังนั้น
ในทุกๆปี UNV จึงได้สร้างอาสาสมัครที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงานขึ้นมาปีละ 7,500 คน เพื่อ
ทำการสนับสนุนการทำงานด้านอาสาสมัครด้านการพัฒนาประเทศ และยังมีอาสาสมัครอีกนับล้านคน
ที่พร้อมที่จะสละเวลาและแรงกายในรูปแบบต่างๆกัน
เมื่อเร็วๆนี้ผมได้มีโอกาสฟังเรื่องราวของหญิงชราอายุ 70 ปี ผู้ซึ่งออกเดินทางกว่าครึ่งค่อนโลกจาก
ประเทศ New Zealand เพื่อไปทำงานอาสาสมัครร่วมกับ UN ที่ประเทศ Liberia ในภารกิจเพื่อ
รณรงค์ด้านสันติภาพ และเข้าร่วมกับคนในท้องถิ่นเพื่อผลักดันรัฐบาลในประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริม
การอาสาสมัครในกลุ่มเยาวชน
จากกรณีตัวอย่างดังกล่าว จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆวันก็คือ ผู้คนในที่ต่างๆทั่วโลกได้สละเวลาใช้
ความรู้และแรงกายเข้าร่วมในงานอาสาสมัคร และเมื่อเกิดโครงการ UNV Online Volunteering
Service ซึ่งทุกๆคนสามารถเข้าร่วมงานอาสาสมัครด้านสันติภาพและด้านการพัฒนาโดยไม่ติดขัดใน
ข้อจำกัดด้านเวลา และข้อจำกัดทางด้านกายภาพ
แม้ว่ารูปแบบ และคำจำกัดความของการอาสาสมัครตามกาลเวลา แต่หลักการของงานอาสาสมัครนั้นไม่
เคยเปลี่ยนแปลง คือ “คนทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้”
จะเห็นได้ว่าอาสาสมัครนั้นรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นๆ หลังจากที่ได้ร่วมทำงานอาสา
สมัคร ดังเช่นคำให้สัมภาษณ์ของอาสาสมัครท่านหนึ่ง ดังนี้ “ข้าพเจ้ารู้สึกว่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง
ให้กับโลกใบนี้ได้จากทักษะต่างๆที่มีในตัวเอง และงานอาสาสมัครสอนให้ผมได้เรียนรู้ถึงการเป็นส่วน
หนึ่งของสังคมโลก”
จิตวิญญาณของการอาสาสมัครยังคงอยู่และเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในโอกาสวันอาสาสมัครสากลปีนี้
ผมใคร่ขอให้พวกท่านซึ่งเป็นสมาชิกของประชาคมโลก จะช่วยกันคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของการอาสา
สมัครให้สืบเนื่องต่อไป
แปลโดย เฉลิมรัตน์ สีฆสัมบันน์