เล่าสู่กันฟังจากสถานสงเคราะห์บ้านเด็กอ่อนพญาไท
ตั้งแต่ปี 2553 ที่มูลนิธิสุขภาพไทยร่วมกับสหทัยมูลนิธิ ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมโครงการ “อาสานวดเด็ก พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง” (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโครงการ “พลังอาสาสมัคร สร้างสุขให้เด็กในสถานสงเคราะห์” ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นตราบจนถึงวันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั้งตัวพี่อาสาและเด็กๆเองที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้าร่วมกิจกรรม นี้ แต่ก็ยังมีอาสาอีก 12 คน (อาสาประจำวันศุกร์ 4 คน, อาสาประจำวันเสาร์ 8 คน) ที่ยังพอมีเวลาร่วมแบ่งปันความรัก ความอบอุ่นให้แก่เด็กๆอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
ซึ่งในวันเสาร์นี้มีพี่ 7 คนมาดูแลเด็กๆตามปกติแม้ว่าวันเสาร์นี้จะตรงกับวันตรุษจีน พอพี่ๆไปรับเด็กๆมาเล่นที่ศาลาด้านล่าง เด็กๆทุกคนดูสดใสร่าเริง อารมณ์ดีเป็นพิเศษและยังมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกันมาก ซึ่งทำให้พี่ ๆ อาสาหลายๆคนแปลกใจ และในวันนี้เด็กๆยังเดิน-วิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น, ขี่จักยานและยอมอ่านหนังสือแต่โดยดี เมื่อถึงเวลาทานอาหารกลางวันเด็กๆก็ทานกันได้เยอะ ทำให้พี่ ๆ อาสารู้สึกมีความสุขไปด้วย หลังจากเด็กๆ ได้รับประทานอาหารกลางวันและเข้านอนเรียบร้อยแล้ว พี่ ๆ อาสายังได้ร่วมแบ่งปันบอกเล่าความสุขถึงพัฒนาการของเด็กๆที่ตนเองดูแล ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ดูแลจนถึงปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ดังนี้
น.ส.รัชดา จิตต์งามกุศล (พี่ปุ้ย) ดูแลน้องปุณ ได้เล่าว่า “น้องเดินคล่องขึ้น เปิดปิดก๊อกน้ำได้ ยิ้มแย้มมากขึ้น เริ่มมีการแสดงอารมณ์ อยากที่จะเดินไปไหน มาไหน มีการฟังว่าเราจะให้ทำอะไร แล้วเค้าก็จะคิดว่าจะทำหรือเปล่า และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น”
น.ส.ดารณี ภู่ประสงค์ (พี่เจี๊ยบ) ดูแลน้องณัฐ ได้เล่าว่า “น้องมีพัฒนาการดีขึ้น จากวันแรกที่เจอกัน แข็งแรง พูดเก่งขึ้น ชอบซ่อมของเล่นที่เสีย ความจำดีมาก และตอนนี้น้องสามารถบอกได้แล้วว่าปวดฉี่ ให้พาไปห้องน้ำ”
นางพูลสุข พ่วงเสือ (ป้าตา) ดูแลน้องชิ้นและน้องดาว แต่วันนี้น้องดาวไปโรงเรียน จึงขอเล่าถึงน้องชิ้นว่า “การเรียนรู้ไวขึ้น ร่าเริง แจ่มใส ยอมรับฟังคนอื่นมากขึ้น รู้จักแบ่งปันให้คนอื่นๆ ลดความเอาแต่ใจลงเยอะ ”
นายปราโมทย์ ภาษยเกษ (น้าป๊อป) ดูแลน้องภัทร ได้เล่าว่า “พัฒนาการของน้องตั้งแต่แรกเจอ ก็ค่อยๆพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังค่อนข้างช้า เรื่องการเดินยังถือว่าไม่แข็งแรง และยังพูดไม่เยอะ(พูดก็แล้วแต่อารมณ์ ถือว่าไม่ยอมพูด) แต่เวลาเราพูดอะไรด้วยเขาเข้าใจนะ ตอนเจอแรกๆก็ยังเดินไม่ค่อยแข็งก็พยายามให้เค้าเดินมากๆก็ดีขึ้นแต่ยังไม่ ค่อยยอมเดิน ด้านความรู้และพัฒนาการด้านความรู้ ถือว่าดีมาก รู้เรื่องมากขึ้นและเข้าใจสิ่งที่เราพยายามสอน ถือว่าเป็นเด็กที่เก่งมาก และเลี้ยงง่าย เชื่อฟังดี และไม่ดื้อ กินเก่งกินหมดทุกครั้ง และกินไม่เลือก อาจจะยิ้มยากหน่อย แสดงอารมณ์น้อยหน่อย แต่ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ”
คุณทัศภรณ์ โถบำรุง (พี่ทัศ) ดูแลน้องวัล ได้เล่าว่า “เพิ่งเลี้ยงน้องได้ 3 สัปดาห์ (เพราะน้องคนเก่าที่ดูแลกลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว) น้องร่างกายแข็งแรง แต่เดินยังไม่ค่อยคล่อง ยังเตาะแตะ นัองยังไม่ค่อยพูด ช่างสังเกต เก็บความรู้สึก ยังไม่แสดงออกว่าชอบอะไรมากขนาดไหน แต่สัปดาห์นี้เริ่มบอกว่าอยากไปไหน ด้วยการชี้มือ บอกว่าชอบด้วยการพยักหน้า พูดตามอยู่ 2 – 3 ครั้งยังไม่ค่อยหัวเราะหรือแสดงอารมณ์มากนัก”
น.ส.วิสาขา สุมาลย์นพ (ป้าฝน) ดูแลน้องพน ได้เล่าว่า “พัฒนาการทางร่างกาย ทางกล้ามเนื้อแข็งแรงตามวัย แต่การเดินทรงตัวยังมีปัญหา เดินแบบไม่มั่นคงเป๋ไปเป๋มา สามารถทานอาหารเองได้ จับช้อนเองได้ สามารถขึ้นที่สูงเอง ขึ้นบันไดไม้ลื่นได้เอง ชอบความสูง ส่วนพัฒนาการด้านอารมณ์ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีหลากหลายอารมณ์ พอใจก็ยิ้มแย้ม ถ้าไม่พอใจก็จะคิ้วขมวด หน้าบูดแสดงออกอย่างชัดเจน หน้างอ น้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รู้มากขึ้นแต่ไม่ยอมพูดออกเสียง เหมือนไม่มีความมั่นใจในตนเองในการเปล่งเสียง นอกจากเวลาอารมณ์ดีก็จะเปล่งเสียง”
น.ส.กาญจนา ดอกลัดดา (ป้าป้อม) ดูแลน้องการ์และน้องรัฐ ได้เล่าว่า “ตอนแรกเริ่มดูแลน้องรัฐก่อน และพอน้องรัฐได้ไปช่วยเพื่อนดูแลน้องการ์ ทุกวันนี้เลยได้ดูแลทั้งสองคนเลย เด็กทั้ง 2 คนนี้น่ารักมากทั้งฉลาดและซนมากด้วย”
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผ่านไปอย่างมีความสุข มีรอยยิ้ม มีหัวใจที่อิ่มเอม และเป็นพลังใจที่จะทำงานในวันต่อไป
ร่วมแบ่งปันความรู้สึก โดย มูลนิธิสุขภาพไทยและทีมงาน
ที่มา http://www.thaihof.org/frontlove/จิตอาสา-ที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท