คิดถึงเสียงปี่เขาควาย

ลอหว่าดิ

“ปีนี้ฉันไม่ได้ยินเสียงปี่เขาควายดังเลย… แต่ก่อนพอถึงฤดูเกี่ยวข้าวปี่เขาควายจะถูกเป่าเสียงดังก้องหมู่บ้าน ก่อนรุ่งสางเสียงปี่เขาควายจะดังขึ้นเพื่อปลุกให้เราตื่นหุงหาอาหาร เมื่อตะวันเริ่มทอแสงปี่เขาควายจะดังขึ้นอีกครั้งเพื่อบอกว่าถึงเวลาเดินทางไปลงแขกเกี่ยวข้าวแล้ว… เวลาได้ยินเสียงปี่เขาควายทีไร ฉันจะรู้สึกตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้” นอ เละกาโม พูดขึ้นระหว่างนั่งทานข้าวเที่ยงกับผมที่หมู่บ้านชายแดน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นอ เละกาโมเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนเมื่อได้ยินเสียงปี่เขาควาย เธอและครอบครัวจะต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปช่วยเพื่อนบ้านเกี่ยวข้าว เพราะสมัยนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวก บางครั้งต้องเดินเท้าเป็นชั่วโมงจึงจะถึงนาของเพื่อนบ้าน แต่ถึงจะต้องตื่นเช้าหรือเดินทางไกลแค่ไหนการลงแขกเกี่ยวข้าวก็ยังเป็นเรื่องสนุกสำหรับเธอ ที่นาข้าวเธอจะได้พบกับญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านที่มาลงแรงช่วยกัน เป็นเวลาที่คนในหมู่บ้านจะได้พูดคุยไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ สร้างความสนิทสนม หนุ่มสาวบางคู่ก็พบรักกันที่นี่ แต่ปีนี้นอ เละกาโมกลับไม่ได้ยินเสียงปี่เขาควายเหมือนเคย…

ถึงแม้หมู่บ้านชายแดนที่ผมและนอ เละกาโมอยู่จะยังปลูกข้าวไว้เพื่อกินกันในครอบครัว แต่ชาวบ้านก็ต้องเร่งเกี่ยวข้าวเพื่อเตรียมที่นาไว้เพาะปลูกถั่วและข้าวโพดเพื่อขาย หลายคนที่นี่เริ่มคิดว่าการลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นงานที่เสียเวลาเพราะต้องรอคนในหมู่บ้านมาช่วยกันแล้วยังต้องไปช่วยเพื่อนบ้านเกี่ยวข้าวเป็นการตอบแทนอีก การจ้างแรงงานและการใช้เครื่องจักรทุ่นแรงจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการย่นระยะเวลาเก็บเกี่ยว
ทุกวันนี้วิถีชีวิตของคนที่นี่กำลังเปลี่ยนไป นาฬิกาปลุกมาแทนที่เสียงจากปี่เขาควาย พอสว่างหน่อยก็ขับรถไปรับแรงงานจากในค่ายผู้ลี้ภัยมาเกี่ยวข้าว ตกเย็นก็จ่ายค่าแรงและพาไปส่งในค่ายเหมือนเดิม หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วก็จ้างเครื่องจักรมาตีข้าวแทนการลงแรงล้อมวงตีข้าวเหมือนสมัยก่อน เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้คือพัฒนาการทางการเกษตรของคนปกาเกอะญอในหมู่บ้านชายแดน แต่การเกษตรสมัยใหม่ก็ไม่ได้ให้ผลคุ้มค่าเสมอไป เนื่องจากราคาผลผลิตในแต่ละปีไม่คงที่ แต่ค่าใช้จ่ายจากการจ้างแรงงานและใช้เครื่องทุ่นแรงกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้การจ้างงานและใช้เครื่องจักรทุ่นแรงจะช่วยให้การเก็บเกี่ยวใช้เวลาสั้นลง มีเวลาในการปลูกพืชผลไว้ขายมากขึ้น แต่ผมก็ยังคิดอยู่ว่าคุ้มแล้วหรือกับการเสียวัฒนธรรมการลงแขกไป ทุกวันนี้เห็นจะเหลือแต่ชุมชนปกาเกอะญอบนภูเขาสูงที่ยังลงแขกเกี่ยวข้าว อาจเพราะการเกษตรเพื่อการค้ายังคงไม่เข้มข้นเท่าหมู่บ้านบนพื้นราบ ชาวบ้านจึงยังคงลงแขกช่วยงานกันตามวิถีดั้งเดิม แม้งานจะเสร็จช้าแต่ผมเชื่อว่าพวกเขาจะได้ “อะไร” มากกว่าเมล็ดข้าว
บางทีผมและนอ เละกาโมอาจจะต้องไปฟังเสียงปี่เขาควายที่นั่น…


ศูนย์ข้อมูลริมขอบแดน มูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน
ตู้ปณ.180 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง
จ.เชียงใหม่ 50202
โทรศัพท์ 053-805-298
โทรสาร 053-805-298
E-mail borders@chmai2.loxinfo.co.th