pic1.jpg picture by volunteerspirit
ในบางเวลา “ความคิดถึง” ก็มีค่ากว่าที่คิด
หากมีคนเดินมาถามคุณว่า “สงกรานต์นี้ไปเที่ยวไหน” สำหรับคนที่วางแผนความสุขไว้เป็นอย่างดีคงจะตอบคำถามนี้กลับไปด้วยรอยยิ้ม แต่หากคำตอบของคุณออกมาว่า “ไปทำงาน” เชื่อว่าหลายต่อหลายคนที่ต้องตอบคำถามนี้คงจะหน้ามุ่ยที่ต้องเอ่ยปากเป็นแน่
“ไปทำงาน”
คำตอบที่ค่อนข้างจะสวนทางกับเทศกาลหยุดยาวที่ใครๆ ต่างพากันหยุดชีวิตวุ่นๆ ไว้ชั่วครู่ คำตอบนี้ดูจะชวนให้คิดสงสารคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในช่วงที่ผู้คนทั้ง หลายกำลังวุ่นอยู่กับการตักตวงความสุข…แต่จะมีใครคิดอีกมุมบ้างหรือเปล่าว่า คำตอบนี้สำหรับบางคนนั้นกลับแฝงไปด้วยรอยยิ้มและความหวังดีที่พวกเขากำลัง “คิดถึงคนอื่น” ในเทศกาลที่ดูจะทำให้ความคิดถึงนี้ดูมีคุณค่าขึ้นมากว่าเก่า
แล้วคุณค่าเล็กๆ นี้แหละที่ก็ทำให้เราแอบคิดถึงพวกเขาเหมือนกัน

คิดถึงปากท้องของคนอื่น…

ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ กองทัพก็ยังต้องเดินด้วยท้อง
ฉะนั้นเสบียงอร่อยๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ใครๆ ก็ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เสบียงดูจะขาดแคลนเป็นพิเศษนี้ หลายต่อหลายคนจึงหันไปฝากท้องไว้กับบรรดาบริการดิลิเวอร์รี่ความอร่อยถึง บ้านทั้งหลาย ที่ดูจะเป็นที่พึ่งได้ง่ายและสะดวกที่สุด พนักงานที่เสมือนฑูตบริการจัดส่งอุปกรณ์กำจัดความหิวนั้นดูจะเป็นบุคคลที่ เนื้อหอมเป็นพิเศษในยามยาก ซึ่งหนึ่งในผู้บริการสนองความอิ่มท้องนั้นก็คือ คุณฐิติชัย สิทธิกูล พนักงานส่งพิซซ่า The Pizza company ที่เป็นหนึ่งหน่วยรบพิเศษที่จะฝ่าฝันด่านสงครามน้ำเพื่อนำเสบียงนี้ไปหนุนกองทัพของทุกคน

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนต่างหยุดกันเพื่อมาสนุกสนานนั้น คิดอย่างไรบ้างที่ต้องมานั่งทำงานเพื่อคนอื่นในช่วงนี้
คุณฐิติชัย :
ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนะครับ เพราะผมทำงานในวันหยุดผมก็ได้เงิน แล้วก็อาจได้มากหน่อยในช่วงสงกรานต์ แต่ถ้ามองอีกมุมก็รู้สึกดีนะครับ เพราะวันสงกรานต์นี่ใครๆ หยุด ร้านอาหารต่างๆ ก็หยุด แต่พิซซ่าเราไม่มีวันหยุด ซึ่งเป็นตัวเลือกให้เค้าหายหิวได้ในยามที่มีทางเลือกน้อย ช่วงนี้ก็จะมีคนคิดถึงเราเยอะหน่อย เพราะมันสะดวกกับเขาที่สุดด้วย ทำงานช่วงวันหยุดแบบนี้ก็จะหนักเป็นพิเศษหน่อยครับ เวลาไปส่งบางทีเห็นคนเล่นสงกรานต์กันก็อึดอัดเหมือนกันนะครับ เห็นคนอื่นเค้าสนุก เค้าเปียกแล้วเค้ามีความสุข แต่เรายังต้องทำงานอยู่ เราเปียกเราก็ไม่สนุกแล้วเพราะเรากำลังทำงาน ซึ่งบางครั้งก็แอบเซ็งบ้าง แต่ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ
คิดถึงคนอื่นในมุมมองของคุณคืออะไร
คุณฐิติชัย
: ก็คงคิดถึงคนที่เล่นสงกรานต์ครับ เวลาขับส่งพิซซ่าก็จะเห็นคนสนุกสนานกันเต็มไปหมด แล้วก็คิดถึงคนที่กำลังหิวที่คอยพิซซ่าของเราด้วยครับ
แล้วตัวคุณเองคิดถึงใครที่สุดในช่วงสงกรานต์นี้
คุณฐิติชัย : ก็คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวครับ ถ้ามีโอกาสได้หยุดจริงๆ ก็คงกลับบ้าน ไปเล่นสงกรานต์ที่บ้าน

อีกหนึ่งหน่วยเสบียงที่ทำหน้าที่เติมความอิ่มท้องกับคนอื่นในยามยากนี้ก็คือ คุณลุงทองคำ พ่อค้าขายอาหารย่านบางโพธิ์ ที่ตั้งใจไม่หยุดยาวเหมือนคนส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาล และเปิดร้านขายอาหารตามปกติไว้รองรับความหิวของทุกคน

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนต่างหยุดกันเพื่อมาสนุกสนานนั้น คิดอย่างไรบ้างที่ต้องมานั่งทำงานเพื่อคนอื่นในช่วงนี้
คุณลุงทอง
: ช่วงที่คนอื่นไม่ค้าขายนี้ ถ้าใครหิวก็ยังมีเราที่ขาย เขาก็จะได้มีอาหารกินกันช่วงสงกรานต์บ้าง ช่วงนี้ก็จะทำให้รายได้ดีหน่อย ทำให้เราเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นด้วย เป็นผลพลอยได้ที่เราไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่น อีกอย่างหยุดไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไรเหมือนกัน ไม่หยุดก็ไม่ได้มีความทุกข์อะไร
คิดถึงคนอื่นในมุมมองของคุณคืออะไร
คุณลุงทอง
: ถ้าช่วงนี้ก็คิดถึงเพื่อน เพราะเห็นเพื่อนว่าจะกลับบ้าน เป็นห่วงเรื่องอุบัติเหตุ เพราะช่วงนี้อุบัติเหตุจะเกิดเยอะ กลัวเพื่อนเป็นอะไรไปด้วย อีกอย่างก็คิดถึงคนที่เสียไปแล้ว คิดถึงเรื่องการทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับไปแล้วครับ
แล้วตัวคุณเองคิดถึงใครที่สุดในช่วงสงกรานต์นี้
คุณลุงทอง
: คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงเพื่อน

คิดถึงความสุขกายสุขใจของคนอื่น…

แต่ละปี…สถิติของอุบัติเหตุและการบาดเจ็บล้มตายของผู้คนในช่วงเทศกาลนี้ดู จะพุ่งสูงขึ้นเป็นพิเศษ และก็มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ…หนึ่งในอาชีพที่ต้องคอยเตรียมตัวและ ตื่นตัวให้พร้อมเสมอกับสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ นี้ก็คือบรรดาคุณหมอแล้วก็พยาบาลนั่นเอง การเสียสละเวลาแห่งความสุขของตนเองเพื่อคนอื่นนั้นถือเป็นภาระกิจวิชาชีพที่ น่ายกย่อง เช่นเดียวกับ คุณวิลาวรรณ พยาบาลโรงพยาบาลพระมงกุฎ ที่เธอดูจะคิดถึงและเป็นห่วงคนอื่นเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลหฤหรรษที่แฝงความหฤโหดนี้

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนต่างหยุดกันเพื่อมาสนุกสนานนั้น คิดอย่างไรบ้างที่ต้องมานั่งทำงานเพื่อคนอื่นในช่วงนี้
คุณวิลาวรรณ
: โดยอาชีพแล้วก็รู้สึกว่าเรามีหน้าที่ที่ต้องเสียสละเพื่อคนส่วนรวมในช่วงนี้ นะคะ ก็จะรู้สึกภูมิใจมากกว่า การไม่ได้เล่นสงกรานต์ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะก็ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเล่นมาก่อน ทุกปีมันก็จะเหมือนเดิมๆ ในวัยทำงานอาจจะรู้สึกดีว่าเป็นวันหยุดยาว มากกว่าที่หยุดเพื่อไปเล่นสงกรานต์ ความจริงก็อยากหยุดยาวเหมือนกับคนอื่นๆ เหมือนกัน แต่ถ้าได้หยุดไปจริงๆ ก็อาจไม่สบายใจ ไม่สนุกก็ได้นะ เพราะมันเป็นช่วงที่คนอาจจะต้องการเรามากที่สุด แต่เราก็สามารถมีวันหยุดยาวได้เหมือนกันนะ ก็จะเอาวันหยุดยาวไปพักผ่อนในช่วงวันปกติที่ไม่มีอะไรมาก ทุกปีก็จะเอาไปใช้ช่วงวันเกิดของตัวเองค่ะ ก็ได้พักผ่อนเหมือนกัน
คิดถึงคนอื่นในมุมมองของคุณคืออะไร
คุณวิลาวรรณ
: ถ้าในช่วงนี้ก็คิดถึงทุกๆ คนค่ะ เป็นห่วงถึงความปลอดภัยต่างๆ ไม่อยากให้ทุกคนเจออะไรที่ไม่ดี เวลาเที่ยวหรือเล่นน้ำสงกรานต์ก็อยากให้ระวังตัว ดูแลตัวเองให้มากหน่อย แล้วก็ไม่อยากให้ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย ถ้าทุกคนช่วยกันดูแลดีๆ อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นด้วยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับนี่เป็นห่วงมากๆ ในช่วงนี้
แล้วตัวคุณเองคิดถึงใครที่สุดในช่วงสงกรานต์นี้
คุณวิลาวรรณ
: คิดถึงครอบครัวค่ะ ที่เราทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว อยากให้ครอบครัวมีความมั่นคง แล้วก็อยากมีเวลาพาครอบครัวไปเที่ยวได้

คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่น…

ถ้าความอันตรายหยุดวันสงกรานต์บ้างก็คงจะดี…แต่ความเป็นจริงคงเป็นเช่น นั้นยาก หน้าที่ของผู้ที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้คนอื่นจึงมีความจำเป็นเช่นกันใน ช่วงนี้ และหนึ่งในผู้ที่อยู่ในหน้าที่ดังกล่าวนั้นก็คือ คุณธนพล ส่อนราช เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอุทยานเบญจศิริ สวนสาธารณะของเมืองหลวงที่เปิดบริการความสดชื่นอย่างไม่มีวันหยุดเช่นกัน

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนต่างหยุดกันเพื่อมาสนุกสนานนั้น คิดอย่างไรบ้างที่ต้องมานั่งทำงานเพื่อคนอื่นในช่วงนี้
พี่ยาม
: ในวันหยุดสวนเบญจ์ก็ไม่หยุดครับ ก็จะมียามมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด ตัวผมเองก็ทำงานช่วงหยุดสงกรานต์ด้วย ตอนนี้ก็ไม่ค่อยอยากเที่ยวสงกรานต์อะไรมากแล้ว ก็ให้พวกหนุ่มๆ เค้าลาหยุดไปเที่ยวเล่นสงกรานต์กันน่าจะดีกว่า วัยนั้นเค้าก็คงอยากสนุก อยากหยุดกลับบ้าน เราก็เลยอยู่เวรแทนพวกเขาช่วงนี้ แล้วก็ได้ค่าแรงเยอะขึ้นด้วย แล้วผมก็จะไปหยุดวันอื่นแทนตอนหลังสงกรานต์ก็ได้
คิดถึงคนอื่นในมุมมองของคุณคืออะไร
พี่ยาม
: ก็คิดถึงพวกน้องๆ เสียสละให้พวกน้องๆ หยุดไปเล่นสงกรานต์กัน
แล้วตัวคุณเองคิดถึงใครที่สุดในช่วงสงกรานต์นี้
พี่ยาม
: ครอบครัว พ่อแม่ ถ้ามีเวลาก็คงกลับไปเยี่ยมเค้าครับ

คิดถึงความสุขของคนอื่น…

ในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของทุกคนนี้ หนึ่งในกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเล่นน้ำสงกรานต์ก็คือการไปเดินเล่นรับ บรรยากาศเย็นสบายไปพร้อมๆ กับทำกิจกรรมอื่นๆ กันในห้างสรรพสินค้า ซึ่งนี่ถือเป็นช่วงหนึ่งที่ห้างต่างๆ จะจัดกิจกรรมเพื่อเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดี แล้วก็แน่นอนว่าพนักงานบริการต่างๆ ไปจนกระทั่งร้านรวงในที่แห่งนี้นั้น ไม่ค่อยจะมีกำหนดการหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่อย่างใด คุณกานต์พัชชา สุรังคมณีสิน ผู้จัดการร้านเสื้อผ้าชื่อดัง ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ยังคงเปิดกิจการในช่วงนี้

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนต่างหยุดกันเพื่อมาสนุกสนานนั้น คิดอย่างไรบ้างที่ต้องมานั่งทำงานเพื่อคนอื่นในช่วงนี้
คุณกานต์พัชชา : ไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษค่ะ คือเป็นวันทำงานปกติอยู่แล้ว ที่เราไม่ได้หยุดยาวๆ ตรงกับคนอื่น แต่ก็ดีเพราะว่าไม่ได้อยากไปเที่ยวหรือเดินทางไปไหนมาไหนแบบคนเยอะๆ ที่ต้องแย่งกันค่ะ ดีซะอีกที่มาขายของ เปิดร้านให้คนเดินช้อปในวันหยุดแก้เซ็งอีกทางได้ด้วยสำหรับคนที่ไม่ชอบเล่น สาดน้ำ
คิดถึงคนอื่นในมุมมองของคุณคืออะไร
คุณกานต์พัชชา: อยากให้ขับรถกันอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่อยากได้ยินข่าวร้ายๆ ในช่วงเวลาสงกรานต์ค่ะ
แล้วตัวคุณเองคิดถึงใครที่สุดในช่วงสงกรานต์นี้
คุณกานต์พัชชา : คิดถึงช่วงที่ได้กลับไปหาพ่อแม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ได้รดน้ำดำหัว คิดถึงตอนที่ได้รดน้ำคุณปู่คุณย่า แล้วก็คุณพ่อซึ่งตอนนี้ท่านก็เสียไปแล้ว

จะว่าไปแล้ว มุมมองของการ “คิดถึงคนอื่น” ก็ดูจะมีหลายแง่มุมให้สัมผัส…เราอาจได้เจออีกมุมของความสุขของผู้รับ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้สัมผัสกับความสุขอีกมุมของผู้ให้
เสน่ห์ของเทศกาลดีๆ นี้ก็ดูจะมีคุณค่าหลากหลายแฝงอยู่นัยๆ
………..
เทศกาลดีๆ แบบนี้…มาคิดถึงคนอื่นดีกว่า